DIGI เปลี่ยนแปลงธุรกิจหลักจากอสังหาฯ เป็น e-Business เชื่อสร้างรายได้ที่เติบโตในอนาคต

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 9, 2017 17:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ดิจิตอลเทค แพลนเน็ต (DIGI) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติเรื่องการเปลี่ยนแปลงธุรกิจหลักของบริษัท จากปัจจุบันดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ มาเป็นธุรกิจ e-Business โดยบริษัทมีแผนที่จะมุ่งเน้นการสร้างรายได้จากธุรกิจ e-Business ให้เป็นธุรกิจหลักของบริษัทแทนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนที่สูง และมีการแข่งขันที่รุนแรง ขณะที่ธุรกิจด้าน e-Business มีแนวโน้มที่จะสร้างรายได้ที่เติบโตให้แก่บริษัทในอนาคต

บริษัทมีแผนสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ดังนี้ โดยบริษัทมีแผนที่จะจำหน่ายอาคารพักอาศัยในโครงการ ABOVE 39 ที่ตั้งอยู่ในย่านสุขุมวิท 39 โดยแบ่งแผนเป็น 2 ประเภท คือ การจาหน่าย และโอนกรรมสิทธิอาคาร ABOVE 39 ทั้งโครงการให้กับนักลงทุนที่สนใจ หรือการจำหน่ายให้กับลูกค้ารายย่อยเป็นรายห้องผ่านตัวแทนขาย ซึ่งกลยุทธที่จะเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และโอกาสที่จะสร้างผลกาไรที่ดีให้กับบริษัท

ส่วนอาคารสานักงานให้เช่าโครงการ ABC World ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ปัจจุบันบริษัทใช้เป็นสานักงานใหญ่ บริษัทได้รับสิทธิการเช่าอาคารทั้งหมด 30 ปี ปัจจุบันเหลืออายุสัญญาเช่า 29.5 ปี โครงการเป็นอาคารสูง 5 ชั้น 1 อาคาร มีพื้นที่เช่าประมาณ 25,500 ตารางเมตร มีผู้เช่าแล้วประมาณ 30% บริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะให้เช่าเป็นสานักงาน ร้านค้า และร้านอาคาร รวมถึงเป็นสถานที่จัดการแสดง นิทรรศการ และการประชุมสัมมนาต่างๆ บริษัทวางแผนที่จะเพิ่มตัวแทนหาผู้เช่า และหากมีความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ประเภทสิทธิการเช่าในอนาคต บริษัทจะดำเนินการเพื่อจำหน่ายสินทรัพย์เพื่อเข้ากองทุนต่อไปในอนาคต

ด้านแผนงาน e-Business นั้น ปัจจุบันบริษัททำธุรกิจด้านจำหน่ายสินค้าบนเว็บไซต์ และการเป็นตัวแทนรับชำระเงินค่าสาธารณูปโภคผ่านแอพพิเคชั่น และเว็บไซต์ รวมถึงเป็นตัวแทนรับชำระเงินให้กับ WeChat Pay โดยบริษัทมีแผนงานดังนี้ 1. เพิ่มปริมาณการแลกคะแนนทั้งจากธนาคาร และไม่ใช่ธนาคารให้มากที่สุด เพื่อให้เป็นแหล่งในการรวมคะแนนสะสมทั้งหมด เพื่อสร้างฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น

2. เพิ่มปริมาณสินค้าที่ตรงกับความต้องการลูกค้า โดยร่วมเป็นพันธมิตรกับคู่ค้ารายใหญ่ๆ 3. เป็นตัวกลางในการประมูลทรัพย์สินผ่านระบบ e-Auction เพื่อใช้เทคโนโลยีที่สะดวก และง่าย เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่แห่งใดในโลก 4. ขยายฐานร้านค้าที่รับชำระเงินด้วย WeChat Pay โดยใช้ Outsource ให้ขยายได้ทั่วประเทศ

5. เพิ่มช่องทางการเป็นตัวแทนรับชาระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ให้กับบริษัทรายใหญ่จากต่างประเทศ หรือในประเทศให้มากขึ้น เนื่องจากมีฐานร้านค้าอยู่แล้วทำให้สามารถขยายการให้บริการชำระเงินให้หลากหลายประเภทมากขึ้น 6. เสนอบริการใหม่ๆ ให้ร้านค้าที่เป็นตัวแทนรับชำระเงิน เช่น การทำสื่อผ่านระบบ WeChat เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้า และบริการ หรือการเป็นตัวแทนทำ WeChat Official Account ประเภท Oversea ให้กับร้านค้าไทยที่ต้องการให้ข้อมูลสินค้าต่อลูกค้าจีน หรือการให้บริการจัดทำเมนูสินค้าภาษาจีนผ่านระบบ WeChat เป็นต้น

และ7. บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาระบบ e-Wallet สาหรับในประเทศ เพื่อให้คนไทยสามารถใช้ชำระเงินค่าสินค้า และบริการทุกประเภท ผ่านระบบโทรศัพท์มือถือ โดยไม่ต้องใช้เงินสด หรือบัตรเครดิต โดยบริษัทจะพัฒนาระบบ QR Code ที่มีค่าใช้จ่ายที่ต่ำ และมีความปลอดภัยสูง

นายจิรภัทร วีรชยทองคำ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท DIGI กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทได้มีการเปลี่ยนแปลงในด้านของธุรกิจไปมากพอสมควร เพื่อวางแผนการดำเนินงาน และมองหาช่องทางการเติบโตให้มากยิ่งขึ้นจากเดิม

ปัจจุบัน ระบบการชำระเงินของโลกทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก และมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกัน คือ การมุ่งไปใช้ e-Payment หรือบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์แทนเงินสดกันมากขึ้น ทุกวันนี้เราสามารถมองเห็นการเปลี่ยนแปลงและการขยายตัวในชีวิตประจำวันได้ไม่ยาก ไม่เฉพาะแค่ในกลุ่มของนักท่องเที่ยวเท่านั้น เพียงแค่เดินเข้าร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า หรือร้านอาหารดังชั้นนำ ก็จะเห็นป้ายสัญญลักษณ์ธุรกรรมแสดงว่า ที่สามารถรองรับระบบการชำระเงินออนไลน์ ผ่าน QR Code เพื่อตอบสนองกับแนวคิดสังคมไร้เงินสด หรือ Cashless Society ซึ่งข้อดีก็คือ การลดการใช้เงินสดและการเพิ่มการใช้ e-payment จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างรวดเร็วขึ้น

นอกเหนือไปจากนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพของเศรษฐกิจในการแข่งขันระหว่างประเทศจากการลดต้นทุนที่มาจากธุรกรรมเงินสด และการจัดเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นของรัฐบาล เพราะ e-payment ทำให้ธุรกรรมการเงินทุกอย่างสามารถตรวจสอบบัญชีย้อนหลังได้

อย่างไรก็ตาม DIGI จึงเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่จะร่วมผลักดันให้เกิด “สังคมไร้เงินสด" ในประเทศไทย ให้เติบโตได้อย่างมั่นคง เพื่อร่วมกันสร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจดิจิทัล เป็นการตอบสนองนโยบายของภาครัฐ และหวังเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในอนาคตต่อไป

อนึ่ง เมื่อ 14 ก.ค.60 บมจ.แอสเซท ไบร์ท (ABC) แจ้งการเปลี่ยนชื่อเป็น บมจ. ดิจิตอลเทค แพลนเน็ต (Digital Tech Planet Public Co., Ltd.) แทน อีกทั้งเปลี่ยนชื่อย่อของบริษัทที่ใช้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯจากเดิม “ABC" เป็น “DIGI" แทน เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ