(เพิ่มเติม) GPSC เตรียมทุ่มเงิน 1.41 แสนลบ.ซื้อ GLOW ทั้ง 100% พร้อมใช้เงินกู้ระยะสั้นเข้าซื้อก่อนปรับโครงสร้างเงินทุน ,อาจเพิ่มทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 20, 2018 09:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เตรียมใช้เงินลงทุน 97,559 ล้านบาท เพื่อเข้าซื้อหุ้นบมจ.โกลว์ พลังงาน (GLOW) จำนวน 69.11% จาก Engie Global Developments B.V. ทั้งทางตรงและทางอ้อม ในราคาหุ้นละ 96.50 บาท หลังจากนั้นจะทำคำเสนอซื้อหุ้น GLOW ที่เหลือ 30.89% ซึ่งหากทุกรายตอบรับการซื้อหุ้น 100% ก็จะทำให้ต้องใช้เงินซื้อกิจการครั้งนี้จำนวน 141,166 ล้านบาท โดยบริษัทจะใช้เงินกู้ระยะสั้นไม่เกิน 142,500 ล้านบาท อายุไม่เกิน 12 เดือน เพื่อรองรับการเข้าทำธุรกรรมครั้งนี้ ซึ่งหนึ่งในเงื่อนไขของสินเชื่อระยะสั้นกำหนดให้บริษัทต้องปรับโครงสร้างเงินทุน เบื้องต้นอาจพิจารณาเพิ่มทุนไม่เกิน 74,000 ล้านบาท ซึ่งจะต้องเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นภายในเดือนเม.ย.62

ทั้งนี้ คณะกรรมการบมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) และบมจ.ไทยออยล์ (TOP) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน GPSC สนับสนุนให้บริษัทเข้าซื้อกิจการ GLOW ในครั้งนี้ เนื่องจากจะเป็นโอกาสสำคัญในการขยายธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการดำเนินงานและรองรับโอกาสในการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ขณะที่การเข้าซื้อกิจการ GLOW จะทำให้กำลังผลิตไฟฟ้าของ GPSC เพิ่มขึ้นราว 1.5 เท่า มาที่ระดับ 4,835 เมกะวัตต์ (MW)

GPSC แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.) อนุมัติให้บริษัทซื้อหุ้น GLOW จาก Engie Global Developments B.V. ทั้งทางตรงและทางอ้อม จำนวนรวมทั้งสิ้น 1,010,976,033 หุ้น หรือ 69.11% ในราคาซื้อขายหุ้นละ 96.50 บาท คิดเป็นเงินรวมประมาณ 97,559 ล้านบาท โดยราคาซื้อขายดังกล่าวอาจมีการปรับลดลงได้เป็นจำนวนเท่ากับเงินปันผลจ่ายต่อหุ้น หาก GLOW มีการจ่ายเงินปันผลก่อนเงื่อนไขบังคับก่อนเสร็จสิ้นลง ซึ่งบริษัทได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับผู้ขายเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.61 (สัญญาซื้อขายหุ้น) และเบื้องต้นคาดว่าเงื่อนไขบังคับก่อนทั้งหมดน่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนต.ค.61

ขณะที่บริษัทมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดของ GLOW เป็นจำนวนทั้งสิ้น 451,889,002 หุ้น หรือ 30.89% ภายหลังจากการทำธุรกรรมการซื้อขายหุ้นเสร็จสิ้น ซึ่งหากผู้ถือหุ้น GLOW ทุกรายตอบรับคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ GLOW จำนวนหุ้น GLOW ที่บริษัทจะได้มาทั้งหมดจะเท่ากับ 1,462,865,035 หุ้น หรือ 100% ซึ่งจะใช้เงินจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 141,166 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังอนุมัติให้บริษัทกู้ยืมเงินจำนวนไม่เกิน 142,500 ล้านบาท จากสถาบันการเงินและ/หรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 12 เดือน) เพื่อรองรับธุรกรรมการซื้อขายหุ้น และการทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดของ GLOW พร้อมทั้งมอบหมายให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ มีอำนาจในการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นในการกู้ยืมเงินระยะสั้นสำหรับรองรับธุรกรรมการซื้อขายหุ้น และการทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดดังกล่าว

อนึ่ง หนึ่งในเงื่อนไขของสินเชื่อเงินกู้ระยะสั้นจำนวนไม่เกิน 142,500 ล้านบาทนั้น กำหนดให้บริษัทต้องดำเนินการตามแผนการปรับโครงสร้างเงินทุนของบริษัท รวมถึงการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทภายในเดือนเม.ย.62 เพื่อพิจารณาเรื่องการเพิ่มทุนของบริษัท ทั้งนี้ ในเบื้องต้นบริษัทอาจพิจารณาเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 74,000 ล้านบาท โดยบริษัทจะนำเสนอแผนการปรับโครงสร้างเงินทุนของบริษัท เพื่อให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทพิจารณาและอนุมัติต่อไป นอกจากนี้ เงื่อนไขของสินเชื่อเงินกู้ระยะสั้นนั้นได้กำหนดให้บริษัทต้องนำเงินปันผลรับสุทธิที่ได้รับจาก GLOW ในช่วงระยะเวลา 12 เดือนมาชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นด้วย

คณะกรรมการบริษัท ยังเห็นชอบให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการออกหุ้นกู้ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในวงเงินรวมไม่เกิน 68,500 ล้านบาท หรือในสกุลเงินอื่นในอัตราเทียบเท่า พร้อมทั้งเห็นชอบให้ผู้ถือหุ้นมอบอำนาจให้คณะกรรมการบริษัทมีอำนาจในการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นทุกประการที่เกี่ยวกับการออกและเสนอขายหุ้นกู้

ทั้งนี้ อนุมัติแต่งตั้งให้ บริษัท อวานการ์ด แคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระของบริษัท เพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับการเข้าทำธุรกรรมการซื้อขายหุ้นและการทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท โดยบริษัทจะจัดส่งรายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระให้แก่ผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาพร้อมกับการจัดส่งหนังสือเชิญประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 ส.ค.61 เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวต่อไป

GLOW เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและผู้ให้บริการด้านสาธารณูปโภคทางอุตสาหกรรมในภาคเอกชนรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ณ สิ้นธ.ค.60 มีฐานการผลิตไฟฟ้าหลัก 8 แห่ง กำลังผลิตไฟฟ้าติดตั้งทั้งสิ้น (Installed capacity) 3,207 เมกะวัตต์ และกำลังผลิตไอน้ำทั้งสิ้น 1,206 ตัน/ชั่วโมง กำลังผลิตน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม 5,482 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง และกำลังการผลิตน้ำเย็น 3,400 ตันความเย็น

สำหรับประโยชน์ที่บริษัทคาดว่าจะได้รับนั้น เห็นว่าการเข้าทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการขยายธุรกิจในกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าเพื่อเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 เท่า จากกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นในปัจจุบันที่ 1,940 เมกะวัตต์ เป็น 4,835 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ยังจะสามารถรองรับและสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลและกลุ่มบมจ.ปตท. (PTT) ในการเติบโตภายใต้แผนพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เนื่องจากสามารถเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าและระบบสาธารณูปโภคไปยังลูกค้าอุตสาหกรรมในมาบตาพุดและบริเวณใกล้เคียงในพื้นที่EEC ที่อาจมีความต้องการการใช้ไฟฟ้าและสาธารณูปโภคในอนาคตได้

ด้าน GLOW แจ้งว่าได้รับแจ้งจาก Engie Global Development B.V. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นว่าได้ลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นกับ GPSC ในวันนี้ เพื่อขายหุ้นและผลประโยชน์ทั้งหมดที่ Engie ถืออยู่ในบริษัทให้แก่ผู้ซื้อ คิดเป็นสัดส่วน 69.11% โดยธุรกรรมการซื้อขายหุ้นครั้งนี้มีมูลค่ารวม 97,559 ล้านบาท หรือคิดเป็นราคาซื้อขายที่ 96.50 บาทต่อหุ้น

นายเติมชัย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ GPSC เปิดเผยว่า สำหรับแหล่งเงินทุนทั้งหมดในการซื้อกิจการครั้งนี้ คณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้ใช้เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินและ/หรือผู้ถือหุ้นใหญ่ และภายหลังจากนั้น GPSC มีแผนทางการเงินสำหรับชำระเงินกู้ยืมระยะสั้นเพื่อปรับโครงสร้างเงินทุน โดยคาดว่าจะออกหุ้นกู้ และ/หรือเงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงิน ในสัดส่วนประมาณกึ่งหนึ่งของมูลค่าซื้อขายทั้งหมด และส่วนที่เหลือจะเป็นการเพิ่มส่วนทุนของบริษัท

"การเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้ นับเป็นการขยายธุรกิจที่สำคัญของ GPSC ซึ่งจะส่งผลให้บริษัท สามารถสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยกำลังการผลิตภายหลังควบรวมเพิ่มสูงขึ้นเป็น 4,835 เมกะวัตต์ บรรลุเป้าหมายการเติบโตในระยะยาวของบริษัท ทั้งยังเพิ่มขีดความสามารถจากการขยายฐานลูกค้าสู่อุตสาหกรรมอื่น นอกจากลูกค้ากลุ่ม ปตท. และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งตอบโจทย์การเติบโตตามแผนกลยุทธ์ของบริษัท จากสัดส่วนโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ที่เพิ่มมากขึ้น บริษัทเชื่อว่าโรงไฟฟ้า SPP เป็นหัวใจสำคัญของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญและจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ"นายเติมชัย กล่าว

นายเติมชัย กล่าวว่า การที่โรงไฟฟ้าและโครงข่ายของ GPSC อยู่บริเวณใกล้เคียงกับของ GLOW บริษัทคาดว่าจะได้ประโยชน์จาก Operational Synergy ในการบริหารโรงไฟฟ้าและโครงข่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและเพิ่มเสถียรภาพของการจ่ายไฟฟ้าและไอน้ำของบริษัท ด้วยความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีชั้นนำของทั้งสองบริษัท เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น

"นับเป็นโอกาสสำคัญของ GPSC ที่ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น (Share Purchase Agreement) กับ Engie Global Developments B.V. การเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้จะสนับสนุนให้บริษัท มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สามารถส่งมอบพลังงานที่มีเสถียรภาพ ผนวกกับการสร้างนวัตกรรมในธุรกิจไฟฟ้า โดยนำจุดแข็งของทั้งสองบริษัทมาเสริมความแข็งแกร่งด้วย operational synergy เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดในการบริหารความมั่นคงทางพลังงาน และความสามารถในการแข่งขัน ที่จะทำให้บริษัทมีการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระดับภูมิภาค ซึ่ง GPSC มีความมุ่งมั่นในการเป็นบริษัทผลิตไฟฟ้าชั้นนำ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายได้ในอนาคต"นายเติมชัย กล่าว

อนึ่ง ราคาหุ้น GLOW ปิดตลาดเมื่อวานนี้ อยู่ที่ 92.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท หรือ 3.64% ขณะที่หุ้น GPSC อยู่ที่ 71.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -2.05%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ