(เพิ่มเติม) GUNKUL เผยโซลาร์ฟาร์ม"เซนได โอคุระ" ในญี่ปุ่นเริ่ม COD แล้ววันนี้ ดันรายได้เพิ่ม 400 ลบ./ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 1, 2018 10:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) แจ้งว่าตามที่บริษัทได้เข้าไปลงทุนใน บริษัท เซนได โอคุระ จีดี ไดอิจิ โกโด ไคฉะ (GK Sendai) ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน ทั้งนี้ GK Sendai ได้ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เซนได โอคุระ จำนวน 31.75 เมกะวัตต์ (MW) เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เซนได โอคุระ ตั้งอยู่ที่เมืองเซนได มิยางิ ประเทศญี่ปุ่น มีขนาดกำลังการผลิตรวม 31.75 เมกะวัตต์ (38.10 เมกะวัตต์ติดตั้ง) และเป็นโครงการที่ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับ Tohoku Electric Power Co., Inc. (Tohoku Electric) เป็นระยะเวลา 20 ปี ในอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ Feed-in-Tariff (FiT) หน่วยละ 36 เยน หรือราว 10 บาท/หน่วย นับจากวันที่เริ่มดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์

นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ ประธานกรรมการบริหาร ของ GUNKUL เปิดเผยว่า ภายหลังการเริ่ม COD ของโครงการดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 400 ล้านบาท/ปี เมื่อหักค่าใช้จ่ายและภาษีจะได้รับเงินกลับมาในรูปปันผลประมาณ 100 ล้านบาท/ปี

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาธุรกิจของกลุ่มบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่องได้อย่างมั่นคง จากโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม และโครงการโรงไฟฟ้าที่ติดตั้งบนหลังคา (GRoot) ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) รวมกันแล้วประมาณ 550 เมกะวัตต์ ซึ่ง ณ สิ้นปีนี้ บริษัทจะ COD โรงไฟฟ้าเข้าระบบประมาณ 330 เมกะวัตต์ ทำให้มั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 30% ตามเป้าหมายที่วางไว้ และกำไรดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ขณะที่ยังเชื่อมั่นว่าในปี 2564 จะมีสัญญา PPA ครบ 1,000 เมกะวัตต์ตามเป้า

"บริษัทมีความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจพลังงานทดแทนที่ดำเนินการอยู่ เห็นได้จากที่ผ่านมาธุรกิจของบริษัท เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีความมั่นคงเพิ่มมากขึ้น โดยจากการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์โครงการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงหางานใหม่ ๆ เพิ่ม ทั้งในส่วนของโซลาร์ฟาร์ม รวมถึงพลังงานลม และมีความเชื่อมั่นว่าต่อจากนี้กลุ่มบริษัทจะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาเข้าลงทุนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมทุกรูปแบบ โดยเฉพาะที่ต่างประเทศ เพื่อทำให้กลุ่มบริษัทก้าวเข้าสู่ธุรกิจโรงไฟฟ้าอย่างเต็มตัว ที่สำคัญทำให้รายได้และกำไรของกลุ่มบริษัทฯปรับเพิ่มสูงขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน"นางสาวโศภชา กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ