(เพิ่มเติม) PTTEP เผยแผน 5 ปี (ปี 62-66) ตั้งงบรายจ่าย 1.61 หมื่นล้านแหรียญฯ ,วางเป้าปริมาณขายปี 62 ที่ 3.18 แสนบาร์เรล/วัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 18, 2018 13:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือ ปตท.สผ.แจ้งการจัดทำประมาณการรายจ่ายสำหรับแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 2562-2566) มีรายจ่ายรวมทั้งสิ้น 16,105 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในปี 62 คาดการณ์จะมีรายจ่ายรวมที่ 3,256 ล้านเหรียญ สหรัฐ และมีปริมาณขายปิโตรเลียมที่ 3.18 แสนบาร์เรล/วัน โดยประมาณการรายจ่ายและปริมาณการขายปิโตรเลียมดังกล่าว ยังไม่รวม ผลจากการที่ ปตท.สผ.ได้รับสิทธิในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแปลงสำรวจ G1/61 (แหล่งเอราวัณ) และ G2/61 (แหล่งบงกช) ใน ทะเลอ่าวไทย ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2561

หน่วย : ล้านเหรียญ สหรัฐฯ

                                       ปี 2562   ปี 2563    ปี 2564    ปี 2565   ปี 2566   ปี 2562-2566
รายจ่ายลงทุน (Capital Expenditure)       1,840    1,667     2,223     1,927    1,653      9,310
รายจ่ายดาเนินงาน (Operating Expenditure) 1,416    1,279     1,256     1,633    1,211      6,795
รายจ่ายรวมทั้งสิ้น (Total Expenditure)      3,256    2,946     3,479     3,560    2,864     16,105

จากแผนงานดังกล่าว ส่งผลให้ ปตท.สผ. คาดการณ์ตัวเลขประมาณการขายปิโตรเลียม เฉลี่ยต่อวันจากโครงการผลิต ปัจจุบัน ระหว่างปี 2562-2566 ดังรายละเอียดต่อไปนี้

หน่วย :พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ต่อวัน

                                         ปี 2562      ปี 2563     ปี 2564    ปี 2565   ปี 2566
ปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ย                    318         325        326       280      235

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2562 ปตท.สผ.ให้ความสำคัญกับแนวทางหลัก ดังนี้

1. การรักษาปริมาณการผลิตจากโครงการผลิตหลักที่สำคัญในประเทศไทยและสาธารณรัฐ-แห่งสหภาพเมียนมา (เมียนมา) ซึ่งได้แก่ โครงการเอส 1 โครงการบงกช โครงการอาทิตย์ โครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย และโครงการซอติก้า โดยได้จัดสรร รายจ่ายลงทุนจำนวน 1,159 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าว

2. การเพิ่มปริมาณสำรองและปริมาณการผลิตในอนาคตด้วยการจัดสรรรายจ่ายลงทุนจำนวน 490 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อผลัก ดันโครงการที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา ได้แก่ โครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ โครงการเวียดนาม บี และ 48/95 และเวียดนาม 52/97 และโครงการคอนแทร็ค 4 (แหล่งอุบล) ไปสู่การตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (Final Investment Decision)

3. การเร่งกิจกรรมการสำรวจเพื่อค้นหาทรัพยากร (Contingent Resources) เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว โดย ได้จัดสรรรายจ่ายลงทุนจำนวน 191 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายในการเจาะหลุมสำรวจและประเมินผลสำหรับโครงการ สำรวจในเมียนมา และมาเลเซีย

นอกจาก ปตท.สผ. จะมุ่งเน้นดำเนินกลยุทธ์เพื่อบริหารต้นทุนการผลิตให้สามารถแข่งขันได้ สร้างมูลค่าเพิ่มจากโครงการที่มี อยู่ในปัจจุบัน พร้อมเดินหน้ารักษาความต่อเนื่องในการผลิตก๊าซธรรมชาติ และมองหาโอกาสขยายการลงทุนในพื้นที่ที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง แล้ว ปตท.สผ. ยังให้ความสำคัญกับการปรับตัวเพื่อพร้อมรับมือกับสภาพการดำเนินธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่เปลี่ยนแปลงไป ผ่าน การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และศึกษาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ อาทิ การต่อยอดการลงทุน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในสายธุรกิจก๊าซธรรมชาติ (Gas Value Chain) และการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) เป็นต้น เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของ ปตท.สผ.

นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปตท.สผ. กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป จะเห็นแผนกลยุทธ์ของ ปตท. สผ. ในเชิงรุกมากขึ้น โดยจะสร้างมูลค่าเพิ่มจากธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมซึ่งเป็นธุรกิจหลัก ด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ บริหารต้นทุนการผลิตให้สามารถแข่งขันได้ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยจะให้ความ สำคัญกับธุรกิจก๊าซธรรมชาติครบวงจร เช่น ธุรกิจโรงไฟฟ้า (Gas to Power) รวมถึงการค้นหาธุรกิจใหม่อื่น ๆ เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวกับ เทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (Robotics / AI) และพลังงานทางเลือก ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบริษัท และสามารถ เติบโตได้อย่างยั่งยืน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ