TU เผยงวด Q2/62 กำไรหลักโตดีจากราคาวัตถุดิบลดลงหนุนมาร์จิ้น แต่ตั้งสำรอง Chicken of the Sea 1.4 พันลบ.ฉุดกำไรสุทธิ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 6, 2019 13:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) เผยกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติงวดไตรมาส 2/62 อยู่ที่ 1,513 ล้านบาท เติบโต 10.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 18.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/62 โดยการฟื้นตัวมาจากราคาวัตถุดิบที่ปรับลดลง และอัตรากำไรของธุรกิจหลักปรับตัวดีขึ้น โดยอัตรากำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติไตรมาส 2/62 อยู่ที่ 4.7% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 4.1% ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

อย่างไรก็ตามหากรวมผลกระทบสุทธิจากการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายทางกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีความในประเทศสหรัฐอเมริกามูลค่า 1,402 ล้านบาท (ตั้งสำรอง 1,858 ล้านบาท และหักเครดิตภาษี 456 ล้านบาท) กำไรสุทธิตามหน้างบการเงินไตรมาส 2/62 จะอยู่ที่ 111 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิ 9.64 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายยอร์ก ไอร์เล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินกลุ่ม TU กล่าวว่า ในไตรมาส 2/62 บริษัท Chicken of the Sea ได้บรรลุถึงข้อตกลงชำระค่าชดเชยกับร้านค้าปลีกส่วนมากภายใต้คดีต่อต้านการผูกขาด (Antitrust) และคดีอื่น ๆ โดยบริษัท Chicken of the Sea ได้มีการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายพิเศษทางกฎหมายเพิ่มเติมคิดเป็นมูลค่าสุทธิ 1,402 ล้านบาทหลังหักภาษี และหากหักผลกระทบจากรายการพิเศษดังกล่าวออก บริษัทจะบันทึกกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปรกติไตรมาส 2/62 ที่ 1,513 ล้านบาท

"เราเชื่อว่าการปรับมูลค่าเงินชดเชยดังกล่าวนั้นได้สะท้อนความคืบหน้าของคดีที่เกิดขึ้นกับ Chicken of the Sea รวมถึงความเสี่ยงด้านผลกระทบทางการเงินใด ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับบริษัทแล้ว"นายยอร์ก ไอร์เล กล่าว

TU ระบุว่า สำหรับในไตรมาส 2/62 บริษัทมีนยอดขายลดลง 4.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/61 มาอยู่ที่ 32,214 ล้านบาท โดยหลักเป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโรและปอนด์สเตอร์ลิงกว่า 6-7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และการมุ่งเน้นการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงขึ้น โดยหากแยกผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนออก ยอดขายปรับตัวลดลง 2.2% เนื่องจากปริมาณการขายลดลง

กำไรขั้นต้นในไตรมาสที่ 2/62 อยู่ที่ 5,364 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2/62 จะอยู่ที่ 16.7% เพิ่มขึ้น 2.61% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/61 และเป็นระดับอัตรากำไรรายไตรมาสที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2558

ทั้งนี้ ด้านกำไรจากการดำเนินงานปรกติอยู่ที่ 1,570 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.6% แม้ว่าจะมีการบันทึกค่าชดเชยสำหรับพนักงานที่เกษียณอายุเนื่องจากการแก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานก็ตาม และสืบเนื่องจากค่าชดเชยดังกล่าวและยอดขายที่ลดลง อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายในไตรมาส 2/62 จึงอยู่ที่ระดับ 11.8%

สำหรับผลการดำเนินงานช่วงครึ่งแรกปีนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,385 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิ 878.63 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในส่วนกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ อยู่ที่ 2,787 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.6% เมื่อเทียบกับในช่วงครึ่งแรกของปีก่อน โดยมีเหตุหลักมาเนื่องจากอัตรากำไรของธุรกิจหลักได้ปรับตัวดีขึ้น โดยอัตรากำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 อยู่ที่ 4.5% เมื่อเทียบกับ 3.5% ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ