TAPAC แตกไลน์รุกธุรกิจค้าปลีกความงาม ปูพรม"HEJ Mini"ตีตลาดต่างจังหวัดพร้อมสยายปีกสู่ต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 30, 2019 07:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวจารุวัลย์ วงศ์เจษฏาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท C4 Global ในกลุ่ม บมจ. ทาพาโก้ (TAPAC) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ภาพรวมธุรกิจของ TAPAC ในปี 62 ยังคงเป้ารายได้รวมเติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,063 ล้านบาท เป็นการเติบโตจากทั้ง 3 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนพลาสติกวิศวกรรม (Engineering Plastic Parts) โดยการฉีดขึ้นรูป (Injection Molding) ที่มีสัดส่วน 60% , ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศสวีเดนที่มีสัดส่วน 30% และธุรกิจค้าปลีกความงาม โดยเป็นธุรกิจใหม่ภายใต้ร้านค้าปลีกแบรนด์"เฮ้ สตรีท บิวตี้ (HEJ Street Beauty)" มีสัดส่วนรายได้ราว 10% ของรายได้รวม

บริษัทตั้งเป้าในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจความงามจะเพิ่มขึ้นเป็น 20-30% ของรายได้รวม โดยมีแผนเดินหน้าขยายสาขาร้าน"เฮ้ สตรีท บิวตี้" ซึ่งขายเครื่องสำอางมัลติแบรนด์ (Multi Brand Beauty) จากปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 5 สาขา โดยล่าสุดเตรียมเปิดสาขาใหม่ในเดือน พ.ย.62 ทำเลศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ช็อปปิ้ง เซ็นเตอร์ นครราชสีมา (เดอะมอลล์ โคราช) พื้นที่ 250 ตารางเมตร ใช้เงินลงทุนราว 3-5 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม สำหรับแผนขยายสาขาในจังหวัดภูเก็ตคงชะลอไปก่อน เนื่องจากภาวะนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง แต่เบื้องต้นคาดว่าบรรยากาศนักท่องเที่ยวจะกลับมาดีขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่คาดว่าจะเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงเดือน ต.ค.62 ที่จะเป็นมีงวันหยุดยาวช่วงวันชาติจีน (Golden Week)

บริษัทยังจะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในรูปแบบจุดจำหน่าย "small retail" ภายใต้แบรนด์ เฮ้ มินิ (HEJ Mini) ขนาด 10 ตารางเมตรโดยเฉลี่ย สามารถวางจำหน่ายสินค้าได้ประมาณ 500 รายการ (SKU) ต่อหนึ่งจุดขาย คาดว่าภายนสิ้นปีนี้จะขยายสาขา HEJ Mini ได้ราว 50 สาขา เน้นพื้นที่ต่างจังหวัด และภายในปี 63 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 100 สาขา เป้าหมายหลักคือการผลักดันยอดขายแบรนด์สินค้า "Secret J" ซึ่งเป็นสินค้าของบริษัท (House Brand) เพื่อเพิ่มศักยภาพทำกำไร โดยมั่นใจว่าสาขา HEJ Mini จะได้รับการตอบรับที่จากลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ

"บริษัทยังคงเน้นแนวทางขยายธุรกิจใหม่ช่วยเพิ่มโอกาสเติบโตผลประกอบการในระยะยาว ซึ่งธุรกิจบิ้วตี้มองว่ายังเติบโตได้อีกมาก แม้ว่าในตลาดจะมีการแข่งขันกันสูงและที่ผ่านมาตลาดบิ้วตี้เติบโตมาแล้วในระดับหนึ่ง ทำให้ช่วงเวลานี้อาจเกิดภาวะ slow down ไปบ้าง แต่เป็นแค่ในบางทำเลที่ต้องพึ่งพากำลังซื้อจากนักท่องเที่ยว ซึ่งการเปิดสาขาของบริษัทจะเน้นวิเคราะห์กำลังซื้อเป็นสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าคนไทย พื้นที่ต่างจังหวัดทั้งหัวเมืองใหญ่และเมืองเล็ก แผนขยายสาขาของบริษัทจะเน้นไปในหลายพื้นที่ เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยง และได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุน’นางสาวจารุวัลย์ กล่าว

นางสาวจารุวัลย์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังมองหาโอกาสขยายสาขาในกลุ่มประเทศ CLMV โดยเตรียมนำร่องเปิดสาขาในเวียดนามและกัมพูชา ในลักษณะร่วมมือกับพันธมิตรศูนย์การค้าชั้นนำ อาทิ Aeon Mall Vietnam Crescent Mall และ GIGAMALL คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในไตรมาส 1/63 นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในมาเลเซียและดูไบที่สนใจนำแบรนด์ "เฮ้ สตรีท บิวตี้"ไปขยายสาขาเพิ่มเติมด้วย น่าจะทำให้ช่องทางการขายสินค้าในต่างประเทศมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างขัดเจนในปีหน้า

https://youtu.be/n815mlFSeY8


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ