บมจ.ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย (UPA) แจ้งว่าตามที่บริษัท เมียนมาร์ ยูพีเอ จำกัด (MUPA) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในเมียนมากับ Electric Power Generation Enterprise (EPGE) ได้มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกันตามหนังสือฉบับลงวันที่ 28 มี.ค.59 (สัญญาซื้อขายไฟฟ้า) และขณะนี้ EPGE ได้ส่งเอกสารเพื่อขยายเงื่อนไขบังคับก่อนตามสัญญา (Condition Precedent) จาก 24 เดือน เป็น 48 เดือนนับจากวันที่ 28 มี.ค.59 ให้กระทรวงไฟฟ้าและพลังงานของเมียนมา (MOEE) ซึ่งการขยายระยะเวลาดังกล่าวเกิดความล่าช้าในการอนุมัติอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงในนโยบายพลังงาน MOEE
บริษัทได้รับแจ้งจาก MUPA ว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ย.62 MUPA ได้รับแจ้งว่าคณะกรรมการบริหารของ MOEE ได้พิจารณาอนุมัติให้ขยายระยะเวลาในการดำเนินการตามเงื่อนไขบังคับก่อน (Condition Precedent) ให้เป็นผลสำเร็จภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า โดยเงื่อนไขในการขยายระยะเวลาดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้า (Transmission Line) ขนาด 230 kV ที่เชื่อมระหว่างเมืองเมาะละแหม่ง (Mawlamyine) -เย (Ye) -ทวาย (Dawei) รวมทั้งระยะเวลาและความเป็นไปได้ในการจัดหาแหล่งก๊าซเชื้อเพลิง และการลงนามในสัญญาเช่าที่ดิน โดยระยะเวลาและการดำเนินการที่กล่าวมาทั้งหมดอยู่ในระหว่างการเจรจาของ MUPA
ทั้งนี้ หากบริษัทได้รับทราบความคืบหน้าในเรื่องการเจรจาของ MUPA ที่เกี่ยวข้องกับระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น บริษัทจะแจ้งความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวต่อไป
นายวิชญ์ สุวรรณศรี รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ UPA กล่าวว่า จากนี้ไปจะเริ่มเห็นโครงการโรงไฟฟ้าต่าง ๆ ของ UPAเกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ MUPA ที่เคยล่าช้าจากการเปลี่ยนแปลงในนโยบายพลังงานของกระทรวงไฟฟ้าและพลังงานของเมียนมา ซึ่งปัจจุบันจากการเจรจา ทำให้บริษัทได้รับใบรับรองการต่อสัญญาสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) เป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ทางการเมียนมาได้รับเงินกู้จากธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เพื่อสร้างสายส่งไฟฟ้าเช่นกัน ดังนั้น เชื่อว่าจะทำให้โครงการโรงไฟฟ้าของบริษัทมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน