นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อมั่นว่าแนวโน้มยอดสินเชื่อใหม่ในไตรมาส 4/62 จะเติบโตได้ตามแผน แม้สถานการณ์หนี้ครัวเรือนของคนไทยยังคงทรงตัวในระดับสูง เป็นสาเหตุให้ธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) เริ่มส่งสัญญาณเตือนถึงผลกระทบเชิงลบเป็นข้อจำกัดการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ในปัจจุบันยังอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่ที่ผ่านมาบริษัทปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องไปกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ การเติบโตของสินเชื่อใหม่ในไตรมาสสุดท้ายของปีจะเป็นส่วนสนับสนุนยอดสินเชื่อคงค้างสิ้นปีนี้เติบโตตามเป้า 17% หรือคิดเป็น 46,500 ล้านบาท หลังจากในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ผลการดำเนินงานนับว่าเติบโตได้มากกว่าคาด โดยมียอดสินเชื่อคงค้างเติบโตไปแล้วถึง 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหรือมากกว่า 45,000 ล้านบาท และมีจำนวนฐานลูกค้าสินเชื่อมากกว่า 500,000 ราย และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 560,000 ราย เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อน
และอีกหนึ่งในกลยุทธ์ช่วยเพิ่มฐานลูกค้าคือการขยายสาขาต่อเนื่องในทุกภาคทั่วประเทศ โดยสิ้นปีนี้คาดเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 สาขา จากปัจจุบันมีจำนวน 966 สาขา
สำหรับแนวโน้มหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPLs) ในสิ้นปีนี้จะพยายามรักษาระดับทรงตัวใกล้เคียงกับในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ที่อยู่ระดับ 1.20-1.30% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมสินเชื่อทะเบียนรถเฉลี่ยอยู่ที่ 2.50-3.0% ที่ผ่านมาบริษัทเน้นคุมคุณภาพสินเชื่อเป็นไปตามมาตรฐานควบคู่ไปกับสร้างการเติบโตและรักษามาตรฐานด้านบริการกับลูกค้า
"บริษัทปรับตัวมาตลอด แม้มีปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง และเศรษฐกิจในประเทศยังชะลอตัว แต่ถ้าในกรณีเศรษฐกิจล้ม คงทำให้บริษัทได้รับผลกระทบไปด้วยเพราะเป็นโดมิโน่ แต่คิดว่าเศรษฐกิจไทยคงไม่น่าจะมีผลกระทบรุนแรงขนาดนั้น โดยบริษัทมุ่งเน้นกลยุทธ์ด้านการตลาดหรือแผนขยายสาขา ช่วยให้บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้น สะท้อนได้จาก 9 เดือนแรกผลการดำเนินงานเติบโตได้ดีกว่าแผน และไตรมาสสุดท้ายของปีนี้เชื่อว่าจะยังเติบโตได้เช่นเดิม หนี้ NPL ถือว่าต่ำกว่าอุตสาหกรรม ยังไม่ได้เห็นอะไรที่ต้องกังวลตอนนี้"นายปิยะศักดิ์ กล่าว
ล่าสุด เงินติดล้อ ยังเปิดตัวแคมเปญชุด"หนี้หรือความสุข" เพราะเล็งเห็นการก่อให้เกิดหนี้และนำเงินในอนาคตมาใช้ ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการออมและนำมาซึ่งปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว โดยที่ต้องการสื่อให้ผู้คนใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังหลีกเลี่ยงการก่อหนี้ที่ไม่จำเป็นจากการใช้จ่ายเกินตัว เพียงเพื่อความสุขชั่ววูบจากการได้ทำตามกระแสสังคม ผ่านหนังสือ "25 วิธีคิดทำให้ชีวิตชิบหาย (25 วิธีคิดให้ชีวิตสบาย)" นำเสนอ 25 ทัศนคติในการใช้ชีวิตแบบเหรียญสองด้าน ทั้งด้านที่มุ่งตอบสนองเชิงอารมณ์ ความอยากได้อยากมีเฉพาะหน้า (นำไปสู่ความฉิบหาย) และด้านที่ใช้เหตุผลเน้นการวางแผนสร้างความมั่นคงทางการเงิน ใช้ภาษาที่ตรงไปตรงมา กระชับเข้าใจง่าย โดยวางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ ในราคา 195 บาท
และเปิดตัววิดีโอชุด "หนี้นรก" มีความยาว 11 นาที กำกับโดย ต่อ ธนญชัย ศรศรีวิชัย ผู้กำกับหนังโฆษณามือหนึ่ง สะท้อนชีวิตมนุษย์เงินเดือนในยุคปัจจุบัน ผ่านเรื่องราวของคู่สามีภรรยาที่มีทัศนคติในการใช้ชีวิตที่มุ่งหาความสุขจากการบริโภค ใช้แบรนด์เนมตามเพื่อน กินหรู ท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่กลับไม่อดทนทำงาน กระทั่งชีวิตจนมุมตกเป็นเหยื่อของหนี้นอกระบบ โดยในทุกช่วงขณะของการตัดสินใจจะมีชายลึกลับโผล่มาเตือนถึงผลร้ายของการเป็นหนี้แต่กลับไม่เป็นผล จึงเปลี่ยนจากการเตือนมาเป็นการยุส่ง และในตอนจบชายลึกลับดังกล่าวได้เป็นผู้สรุปแนวคิดการใช้ชีวิตเพื่อความมั่นคงในระยะยาวกับคนดู พร้อมทิ้งท้ายด้วยวลีสั้นๆ 'คิดให้ดีก่อนเป็นหนี้' โดยวิดีโอดังกล่าวจะเผยแพร่บนสื่อออนไลน์ช่วงเย็นวันนี้ (15 ต.ค.62) เพื่อปลุกจิตสำนึกของผู้คนในสังคม