นพ.ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทปรับแผนงานเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะข้อจำกัดของจำนวนเตียงไอซียูแบบสมบูรณ์ในประเทศไทยยังน่าเป็นห่วง เครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์ป้องกันของบุคลากรทางการแพทย์มีจำกัด แม้ว่ารัฐบาลยืนยันว่าหากจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในไทยที่อาการเข้าขั้นวิกฤติจำเป็นต้องใช้เตียงไอซียูแบบสมบูรณ์เพิ่มขึ้นถึงมา 2,000 เตียงก็ยังสามารถรองรับได้แน่นอน ถ้าหากเพิ่มขึ้นมากกว่า 2,000 เตียงอาจต้องแก้ไขปัญหา
THG วางแผน step แรกเตรียมเปิดให้บริการโรงพยาบาลธนบุรี บางซื่อ ในสัปดาห์นี้เพื่อเป็นสถานพยาบาลรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ประกอบด้วย จุดคัดกรองตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทั้งระบบ DRIVE THRU โดยไม่ต้องลงจากรถ หลังเริ่มเปิดให้บริการแห่งแรกไปแล้วในโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง
ปัจจุบัน โรงพยาบาลธนบุรี บางซื่อ เปิดให้บริการ WALK THRU สามารถเข้ามาตรวจหาเชื้อในโรงพยาบาลได้สามารถทราบผลภายใน 24 ชั่วโมง และส่งผลการตรวจทางไปรษณีย์ นอกจากนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างห้อง ICU แบบสมบูรณ์ที่มีเครื่องช่วยหายใจจำนวน 10 ห้องเตรียมเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้
พร้อมก้นนั้น ในกรณีสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้น อาจนำไปสู่การยกระดับเข้าระยะ 3 ของการแพร่ระบาด กลุ่มโรงพยาบาลธนบุรีมีความพร้อมใช้โครงการคอนโดมิเนียมย่านประชาอุทิศจำนวน 400 ห้อง ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งก่อสร้างเฟสแรก 200 ห้องที่จะแล้วเสร็จในเร็วๆนี้ เพื่อใช้เป็นโรงพยาบาลสนามขั้นเบื้องต้น หรือ เป็นหอผู้ป่วยเฉพาะกิจดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาการไม่ถึงขั้นวิกฤติ
นพ.ธนาธิป กล่าวอีกว่า โรงพยาบาลธนบุรีในเครือทุกแห่งยังอยู่ระหว่างปรับเปลี่ยนระบบปรับอากาศรูปแบบใหม่ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 และเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับบุคลากรทางการเพทย์ที่ต้องปฎิบัติงานและผู้ที่เข้ามาใช้บริการด้วย ซึ่งขณะนี้แพทย์และบุคลากรของโรงพยาบาลยังไม่พบการติดเชื้อโควิด-19
"เราเตรียมความพร้อมมาตลอดอันดับแรกคือผู้ป่วยต้องปลอดภัย เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่เป็นผู้ดูแลต้องปลอดภัย และต้องไม่มีผลกระทบผู้ป่วยทั่วไปคัดแยกให้ชัดเจน เป็นตามมาตราฐานทางการแพทย์ โดยเฉพาะการสำรองเวชภัณฑ์ที่ขาดแคลน เช่น หน้ากากชนิดธรรมดา และชนิดพิเศษขั้นสูง เสื้อคลุม หมวกปิด และถุงมือ เป็นต้น วันนี้ยอมรับว่าทรัพยากรมีจำกัดต้องวางแผนการใช้งานให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด เป็นการบริหารจัดการในภาวะขาดแคลน"
สำหรับแนวโน้มธุรกิจของกลุ่มโรงพยาบาลธนบุรีในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ นพ.ธนาธิป กล่าวว่า แม้ว่าภาพรวมจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการในโรงพยาบาลในเครือลดลง แต่จำนวนผู้ที่เข้ามาใช้บริการในโรงพยาบาลหลักของกลุ่มฯไม่ได้ลดลงมาก เพราะผู้เข้ามาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นคนไทยและรักษาโรคเรื้อรังและโรคผู้สูงอายุเป็นหลัก แต่ต้องมาติดตามสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจปีนี้ที่มีความเสี่ยงติดลบมากกว่า 5% จากเดิมเมื่อต้นปีเคยคาดจะเติบโตได้เกือบ 2% ซึ่งเชื่อว่าถ้าหากจำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯเพิ่มมากกว่าในปัจจุบันมีผลกระทบเชิงลบรุนแรงกับภาวะเศรษฐกิจโลกก็คงต้องมาทบทวนเป้าหมายและแผนการดำเนินงานใหม่อีกครั้ง
https://youtu.be/ZngIlxBnSb8