COVID-19DTC ปิด 7 โรงแรมทั่วไทยชั่วคราวตามมาตรการคุมเข้มโควิด-19 พร้อมทบทวนแผนลงทุนเพื่อสำรองสภาพคล่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 7, 2020 09:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ดุสิตธานี (DTC) แจ้งว่าจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งยังคงมีแนวโน้มแพร่กระจายอย่างต่อเนื่อง ทำให้รัฐบาลและหน่วยงานราชการต่าง ๆ ได้ออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มข้น เพื่อเป็นการสนับสนุนความร่วมมือดังกล่าว บริษัทจึงหยุดให้บริการธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยที่กลุ่มบริษัทในเครือดุสิตเป็นเจ้าของเป็นการชั่วคราว ประกอบด้วยโรงแรม 7 แห่ง ได้แก่ โรงแรมดุสิตธานี พัทยา และโรงแรมดุสิตธานี ภูเก็ต ซึ่งหยุดให้การบริการทันทีตามคำสั่งของจังหวัด

ส่วนอีก 5 แห่ง ประกอบด้วย โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน โรงแรมดุสิตดีทู เชียงใหม่ โรงแรมดุสิตปริ๊นเซส เชียงใหม่ โรงแรม ดุสิตปริ๊นเซส ศรีนครินทร์ และโรงแรมดุสิต สวีท ราชดำริ กรุงเทพ ให้หยุดการรับจอง ยุติการรับลูกค้าใหม่ ทันที และให้พนักงานทุกคนดูแลสุขภาพอนามัยของลูกค้าที่พักอยู่อย่างเคร่งครัด โดยยึดหลักบริการที่ดีเลิศ ตามมาตรฐานดุสิตธานีจนกว่าลูกค้าคนสุดท้ายจะสิ้นสุดการเข้าพัก โดยมาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการระยะสั้น เพื่อประคับประคองธุรกิจในระยะยาว และแม้จะหยุดการให้บริการโรงแรมเป็นการชั่วคราว แต่ทุกโรงแรมยังสามารถให้บริการส่งอาหาร หรือ Food Delivery ได้

สำหรับการดำเนินการกับโรงแรมที่บริษัท และกลุ่มบริษัท เป็นเจ้าของในต่างประเทศ บริษัทจะพิจารณาดำเนินการตามสถานการณ์ กฎหมาย และคำสั่งของหน่วยราชการในประเทศนั้น ในขณะที่โรงแรมที่บริษัทรับจ้างบริหาร สิทธิในการตัดสินใจจะเป็นของเจ้าของโรงแรมที่บริษัทรับบริหาร ทั้งนี้ จากการหยุดให้บริการชั่วคราวของโรงแรมกลุ่มบริษัทครั้งนี้ ส่งผลกรทะบต่อธุรกิจของบริษัท จึงได้เตรียมแผนการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อรายได้และความสามารถในการทำกำไร โดยปรับลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด หลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ตลอดจนมีการลดชั่วโมงการทำงานของพนักงานที่สำนักงาน ส่วนกลาง โดยให้ทำงานจากที่บ้าน เป็นต้น

ด้านสภาพคล่องทางการเงิน ณ สิ้นปี 2562 บริษัทและกลุ่มบริษัท มีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้น มากกว่า 3 พันล้านบาท และมีวงเงินสินเชื่อซึ่งยังไม่ได้เบิกใช้ มากกว่า 1.2 พันล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังดำเนินการหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมผ่านสถาบันการเงินในรูปแบบของเงินกู้โครงการที่บริษัท ได้ดำเนินการไปแล้ว อันเป็นการเพิ่มสภาพคล่องของบริษัท โดยการลดยอดเงินกู้ระยะสั้นเมื่อได้เบิกถอน เงินกู้โครงการดังกล่าว นอกจากนี้ บริษัทยังคงดำเนินการตามแผนการปรับปรุงคุณภาพพอร์ตทรัพย์สินที่มีอยู่ (Asset portfolio rationalization) ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินรองรับในสถานการณ์ทั้งในปัจจุบันและระยะยาวได้

ในด้านการลงทุน บริษัทอยู่ระหว่างการทบทวนแผนการลงทุนในปี 2563 และปรับลดระดับเป้าหมายการขยายกิจการ เพื่อสำรองเงินไว้ในการดำรงสภาพคล่องของกิจการ โดยตระหนักถึงผลประโยชน์ สูงสุดแก่ผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทเป็นสำคัญ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ