บมจ.ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ (CPT) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 ก.ค.63 พิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (วอร์แรนต์) ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP-W2) จำนวนไม่เกิน 224 ล้านหน่วย ให้แก่นายวิชัย ทองแตง จำนวนไม่เกิน 112 ล้านหน่วย และนางพิมพ์เพ็ญ ดีพันธุ์พงษ์ จำนวนไม่เกิน 112 ล้านหน่วย โดยมีราคาเสนอขายหน่วยละ 0.10 บาท มีอายุ 3 ปี โดยมีอัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้นสามัญเดิม ที่ราคาใช้สิทธิหุ้นละ 0.65 บาท
พร้อมกันนี้บริษัทจะลดทุนจดทะเบียนโดยตัดหุ้นที่ยังไม่ได้นำออกจำหน่าย หลังจากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 739.5 ล้านบาท จากเดิมที่ 492.5 ล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 494 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท แบ่งการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 224 ล้านหุ้น ใช้รองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพ PP-W2 ส่วนหุ้นเพิ่มทุนที่เหลือไม่เกิน 270 ล้านหุ้น จะเป็นการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) แบ่งเป็นไม่เกิน 90 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายบุคคลในวงจำกัด (PP) และไม่เกิน 180 ล้านหุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถืออยู่ (RO)
สำหรับการเพิ่มทุนเพื่อรองรับวอร์แรนต์ที่จัดสรรให้กับนายวิชัย และนางพิมพ์เพ็ญ ครั้งนี้ เนื่องจากนักลงทุนทั้งสองรายเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ที่สามารถส่งเสริมธุรกิจของบริษัทให้มีความแข็งแกร่งได้ รวมทั้งมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับฐานลูกค้าที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัท ซึ่งจากประสบการณ์ดังกล่าว บริษัทเชื่อว่าผู้ลงทุนทั้ง 2 รายสามารถให้คำปรึกษาและคำแนะนาแก่บริษัทเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจตามที่บริษัทร้องขอได้
นอกจากนี้ ผู้ลงทุนทั้ง 2 ราย มีเครือข่ายทางธุรกิจที่กว้างขวาง ซึ่งเป็นผลดีต่อบริษัทที่จะได้มีโอกาสได้รู้จักและเข้าถึงพันธมิตรทางธุรกิจ ในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่นอกเหนือจากพันธมิตรเดิมของบริษัท และช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจและเสริมภาพลักษณ์ของบริษัททำให้สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ลงทุนได้มากขึ้นอีกด้วย
ตลอดจนยังเป็นผู้ลงทุนที่มีความพร้อมในด้านเงินทุนและมีศักยภาพที่จะสามารถส่งเสริมและเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทในการขยายฐานลูกค้าสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการด้านการควบคุมระบบของเครื่องจักรและระบบไฟฟ้าในอาคารขนาดใหญ่ เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารโรงพยาบาล อาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียมและโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท รวมถึงเป็นการโอกาสอันดีในการทำธุรกิจร่วมกันเพื่อขยายและต่อยอดธุรกิจของบริษัทเพื่อให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
อีกทั้งเพื่อให้บริษัทมีเงินทุนเพียงพอในการหมุนเวียนและขยายธุรกิจใหม่ ๆ ของบริษัทในอนาคต อันเป็นการส่งเสริมสภาพคล่องทางการเงิน และช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทั้งในโครงสร้างทางการเงินและสัดส่วนของหนี้สินต่อทุนของบริษัทในระยะยาวและช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงินในการดำเนินโครงการในอนาคต เพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้นโดยรวม