COVID-19ITD เผยโควิดกระทบโครงการในประเทศ-ตปท.หยุดชะงัก เงินกู้ได้ล่าช้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 21, 2020 18:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นเหตุให้บริษัทไม่สามารถนำส่งรายงานแสดงฐานะและผลการดำเนินงานสำหรับงบการเงินรายไตรมาส สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563 ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ภายในกำหนดระยะเวลานั้น โดยผลกระทบต่องบการเงิน บริษัทฯ อยู่ระหว่างประเมินผลกระทบ ซึ่งหากมีข้อบ่งชี้และตัวเลขที่ชัดเจน บริษัทฯ จะดำเนินการบันทึกผลกระทบดังกล่าวในงบการเงิน เพื่อให้งบการเงินสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงและเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้งบการเงินต่อไป

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่องบการเงินในภาพรวมของบริษัทฯ คือการไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญได้ จึงเป็นเหตุจำเป็นที่บริษัทฯ ต้องขอผ่อนผันระยะเวลาการนำส่งงบการเงินไตรมาส 1/2563 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563 โดยจะนำส่งภายในวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2563 ตามที่บริษัทฯ ได้นำส่งหนังสือแจ้งขอผ่อนผันต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ตามขั้นตอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ ความเสี่ยงและผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่เกี่ยวโยงกับข้อจำกัดในการดำเนินงานจากมาตรการป้องการการแพร่ระบาดของโควิด-19 โครงการในประเทศทั้งหมดยังสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง แต่บางโครงการต้องปรับแผนการทำงาน อันเนื่องมาจากผลกระทบจากไม่มีการบินระหว่างประเทศ ทำให้ทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศไม่สามารถเดินทางเข้ามาทำงานในประเทศเพื่อตรวจสอบการติดตั้งเครื่องจักรในบางหน่วยงาน

นอกจากนั้น มาตรการห้ามเดินทางข้ามจังหวัดในประเทศ ทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนแรงงานทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้านในบางโครงการตลอดจนการจัดหาจัดส่งอุปกรณ์ และเครื่องมือมีความขลุกขลัก ปัญหาเหล่านี้มีผลกระทบอยู่บ้าง แต่ในภาพรวมของบริษัทฯ ยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้

โครงการในต่างประเทศ สถานการณ์โควิด-19 ดังกล่าวได้ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจก่อสร้างในบางประเทศต้องหยุดชะงักลง เช่น ประเทศอินเดีย จากการประกาศใช้มาตรการป้องการการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้โครงการของบริษัทย่อยต้องหยุดการดำเนินงานทั้งหมดถึงช่วงปลายเมษายน และบางโครงการมีแนวโน้มที่จะต้องหยุดต่อเนื่องไปถึงเดือนพฤษภาคม หรืออย่างช้ากลางเดือนมิถุนายน ในส่วนของบางโครงการที่ยังสามารถก่อสร้างได้ บริษัทฯ ก็ต้องลดจำนวนแรงงานลงให้สอดคล้องกับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)

หรือประเทศบังกลาเทศ ที่ทุกหน่วยงานก่อสร้างต้องหยุดการดำเนินงาน ซึ่งเป็นผลกระทบจากรัฐบาลที่มีการใช้มาตรการปิดประเทศ (Lock down) ตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึงพฤษภาคม พ.ศ. 2563 ซึ่งคาดว่าน่าจะเปิดให้ดำเนินการได้ต้นเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล รวมไปถึงปัญหาเรื่องแรงงานท้องถิ่น เนื่องจากมีการประกาศปิดเมืองทำให้แรงงานไม่สามารถเดินทางได้ และไม่มีระบบขนส่งสาธารณะ จึงต้องรอความชัดเจนจากรัฐบาลอีกครั้ง ส่วนในประเทศอื่นๆ ขณะนี้ยังประเมินไม่ได้ว่ามีผลกระทบอย่างไร

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะดำเนินการขอยืดระยะเวลาการดำเนินงานก่อสร้าง และ/หรือ ขอชดเชยค่าใช้จ่ายกับทางผู้ว่าจ้างต่อไป

ส่วนมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น ทางบริษัทฯ ทั้งสำนักงานใหญ่และหน่วยงานของบริษัทฯ ได้กำหนดและประกาศใช้มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด ตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยมีมาตรการการป้องกัน อาทิ

  • การคัดกรองและจำกัดการเข้าพื้นที่ของบุคคลภายนอก โดยการตรวจคัดกรอง วัดอุณหภูมิของบุคคล ที่มาติดต่อรวมถึงพนักงานของบริษัททุกคนเป็นประจำทุกวัน
  • การจัดหาอุปกรณ์ฆ่าเชื้อไว้ตามจุดต่าง ๆ อาทิ เจลแอลกอฮอล์ น้ำยาทำความสะอาด เป็นต้น
  • การประกาศให้ใส่หน้ากากอนามัย (โดยได้จัดทาหน้ากากอนามัยแจกพนักงาน และคนงานของบริษัทฯ)
  • การเว้นระยะห่างในการปฏิบัติงาน
  • การทำความสะอาดฆ่าเชื่อพื้นที่ส่วนกลาง อาทิ ลิฟท์โดยสารที่มีการทาความสะอาดทุกๆ 30 นาที
  • การออกคาสั่งให้หยุดงานและกักกันตัว
  • การจัดแผนการปฏิบัติงาน โดยให้พนักงานปฏิบัติงานจากบ้าน (Work from Home) โดยเฉพาะพนักงานที่เดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ
  • มีการจัดสถานที่การทำงานสำรองในกรณีถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินจนทำให้สานักงานใหญ่ไม่สามารถปฏิบัติงานได้ ซึ่งในต่างประเทศก็มีการบังคับใช้มาตรการป้องกันซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของภาครัฐของแต่ละประเทศอย่างเคร่งครัดเช่นเดียวกัน

สำหรับผลกระทบต่อแหล่งเงินทุนและสภาพคล่องที่ใช้ในการดำเนินงานในประเทศของบริษัทฯ นั้นได้รับผลกระทบทางอ้อมในการจัดหาเงินกู้โครงการกับบางธนาคาร ซึ่งมีความล่าช้าบ้าง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ธนาคารต้องแยกสถานที่ทำงาน ทำให้การติดต่อสื่อสารไม่คล่องตัวส่งผลให้ขั้นตอนในการอนุมัติเงินกู้ช้าลง ตลอดจนการรับเงินค่างานมีความล่าช้าในบางโครงการ เนื่องจากขั้นตอนการทำงานระหว่างผู้ว่าจ้าง บริษัท และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อาทิ มีการเลื่อนการตรวจรับงาน การจัดส่งเอกสารล่าช้า ทาให้การจ่ายเงินค่างวดงานล่าช้า

ทั้งนี้ การล่าช้าดังกล่าว ไม่มีผลกระทบต่อการจ่ายดอกเบี้ยการชำระหนี้ หรือการดำรงอัตราส่วนทางการเงิน หรือข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้แต่อย่างใด

ส่วนในต่างประเทศ เช่น ประเทศอินเดีย ทุกโครงการต้องหยุดงานประมาณหนึ่งเดือน ตามมาตรการของรัฐและปัจจุบันมีเพียงบางโครงการที่ได้รับอนุญาตให้กลับมาทางานได้ ซึ่งในระยะสั้น บริษัทย่อยสามารถจัดสรรเงินเพื่อชำระค่าใช้จ่ายที่จำเป็นเท่านั้น และจะเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อบริษัทย่อยสามารถกลับมาดำเนินงานได้ตามเดิม ปัจจุบัน บริษัทย่อยยังคงความสามารถในการชำระหนี้และดอกเบี้ยตามเงื่อนไข ทั้งนี้ การดำรงอัตราส่วนทางการเงินของบริษัทย่อยจะตรวจสอบจากงบปีซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2563 หรือประเทศบังกลาเทศ ที่มีมาตรการประกาศปิดประเทศ ก็ส่งผลให้บริษัทย่อย บริษัทร่วมและสาขาของบริษัทไม่สามารถทำงานและได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ