(เพิ่มเติม) SSP เผยโซลาร์ฟาร์มยามากะในญี่ปุ่นกำลังผลิตติดตั้ง 34.5 MW เริ่ม COD ตั้งแต่ 30 พ.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 2, 2020 13:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) แจ้งว่า โครงการยามากะ (Yamaka) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทได้ลงทุนผ่านโครงสร้างการลงทุนแบบ จีเค-ทีเค ในสัดส่วน 90% ของเงินลงทุนทีเคทั้งหมด ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วในวันที่ 30 พ.ค.63

โครงการดังกล่าวเป็นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) ตั้งอยู่ในจังหวัดคุมาโมโต้ ประเทศญี่ปุ่น กำลังผลิตติดตั้งรวม 34.5 เมกะวัตต์ และมีกำลังผลิตตามสัญญารวม 30 เมกะวัตต์ ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ Kyushu Electric Power Co.,inc. เป็นระยะเวลา 20 ปี ราคารับซื้อในรูปแบบ Feed-in Tarrif เท่ากับ 36 เยนต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP เปิดเผยว่า โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Yamaga เริ่มขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) เร็วกว่ากำหนดเดิมเดือน ก.ค.63 เมื่อรวมกับการรับรู้รายได้เต็มปีของโซลาร์ฟาร์มเวียดนามและมองโกเลีย จะทำให้ปี 63 มีกำลังการผลิตตามสัญญาโรงไฟฟ้าในมือจำนวน 135 เมกะวัตต์ ผลักดันผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

"โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Yamaga ประเทศญี่ปุ่น ที่สร้างเสร็จก่อนกำหนด ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ และตอกย้ำถึงความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานทดแทนของ SSP ที่มุ่งเน้นพัฒนาโครงการตั้งแต่ต้น ไม่เน้นการซื้อโครงการที่เสร็จแล้วมาดำเนินการต่อ ซึ่งทำให้ได้ผลตอบแทนในแต่ละโรงไฟฟ้าดีกว่าอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม SSP ก็ไม่ได้ปิดโอกาส หากมีโครงการที่ผลตอบแทนดี ความเสี่ยงต่ำก็พร้อมเข้าลงทุนเช่นเดียวกัน เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น"

นายวรุตม์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา SSP พยายามมองหาโครงการใหม่มาเติมในพอร์ตการลงทุนอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับรายได้และกำไรที่เติบโตสูงมาตลอด โดยในปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปี 63 เพื่อไปสู่เป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มเป็น 400 เมกะวัตต์ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า

สำหรับแนวโน้มรายได้ในช่วง 3 ปีข้างหน้า คาดว่ายังมีโอกาสเติบโตอีกมาก จากการมีโรงไฟฟ้าใหม่ๆเริ่มขายไฟมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากฐานจำนวนโรงไฟฟ้าที่ยังไม่สูง เมื่อมีโรงไฟฟ้าใหม่ๆ เริ่มดำเนินการก็จะมีอัตราเติบโตต่อรายได้และกำไรมากขึ้น ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่จะเข้ามาในรอบ 3 ปีข้างหน้า อาทิ โรงไฟฟ้าพลังงานลมกำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ในเวียดนาม โรงไฟฟ้าพลังงานแสงแดดในญี่ปุ่นอีก 2 โรง กำลังการผลิต 26 เมกะวัตต์ และ 22 เมกะวัตต์ ตามลำดับ ทุกโครงการเดินหน้าปกติตามแผนงาน ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ