(เพิ่มเติม) DCON จับมือ PRIN พัฒนาอสังหาฯในโครงการ City Sense บางนา-ตราด มูลค่า 958 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 29, 2020 14:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

(เพิ่มเติม) DCON จับมือ PRIN พัฒนาอสังหาฯในโครงการ City Sense บางนา-ตราด มูลค่า 958 ลบ.

บมจ.ดีคอนโปรดักส์ (DCON) แจ้งว่าบริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการที่จะร่วมลงทุนบมจ.ปริญสิริ (PRIN) เพื่อพัฒนาโครงการจัดสรรร่วมกันในสัดส่วน DCON 49% และ PRIN 51% ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการพิจารณาร่างสัญญาร่วมลงทุน โดยโครงการแรกที่จะลงทุนร่วมกันนั้นคือโครงการ City Sense บางนา-ตราด บนเนื้อที่ดิน 38 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 958 ล้านบาท

สำหรับที่ดินดังกล่าวปัจจุบันเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทย่อยในเครือของ DCON

นายวิทวัส พรกุล ประธานกรรมการบริหาร ของ DCON เปิดเผยว่า บริษัทจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) กับ PRIN ในสัดส่วน 49 ต่อ 51 ในการพัฒนาโครงการ "ซิตี้ เซนส์ บางนา-ตราด" (City Sense Bangna-Trad) โครงการทาวน์โฮม 384 ยูนิต มูลค่าโครงการ 958 ล้านบาท บนที่ดินของบริษัทในเครือดีคอน เพื่อเดินหน้าในธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่กลุ่มดีคอนได้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นอันดับ 2 ใน PRIN ด้วยสัดส่วนรวมกว่า 25% ตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวได้ในช่วงเดือน ก.ค.64

"เราเองมีความเชี่ยวชาญในเรื่องวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะเรื่องเสาเข็ม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการก่อสร้างบ้านจัดสรร ขณะที่ปริญสิริเองก็มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาที่อยู่อาศัยมากว่า 2 ทศวรรษ และเชี่ยวชาญการพัฒนาโครงการในหลากหลายทำเล เราเชื่อว่าความสามารถในทั้ง 2 ส่วนนี้จะช่วยเติมเต็มกันและกัน และทำให้โครงการร่วมทุนระหว่างกันโครงการแรก เป็นโครงการคุณภาพที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี"นายวิทวัส กล่าว

นายวิทวัส กล่าวอีกว่า นอกจากธุรกิจใหม่อย่างธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแล้ว บริษัทยังได้รับการตอบรับที่ดีในกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ อย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน อาทิ ธุรกิจโรงงานผนังสำเร็จรูปพรีคาสท์ที่เพิ่งเปิดตัวและเริ่มดำเนินการผลิตเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า ทั้งในแง่ของคุณภาพการผลิตโดยเครื่องจักรนำเข้าจากเยอรมนี เทรนด์ที่ผู้พัฒนาโครงการหันมาใช้ผนังแบบพรีคาสท์มากขึ้น โดยเริ่มทยอยลงนามสัญญาซื้อขายติดตั้งพรีคาสท์เป็นระยะ ๆ ตั้งแต่เริ่มดำเนินการผลิตมา

ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยีบันทึกคุณภาพเสาเข็ม โดยจะมีวิดีโอบันทึกภาพของเสาเข็มทุกต้นว่าสามารถรับน้ำหนักได้ตามรายการคำนวณ เป็นหลักฐานพิสูจน์ความแข็งแรงของเสาเข็มดีคอน ซึ่งสามารถช่วยทั้งผู้รับเหมาและผู้ซื้อบ้านให้สามารถพิสูจน์ได้ว่า บ้านที่ซื้อไปได้รับการตอกเสาเข็มอย่างแข็งแรง เพิ่มความมั่นใจของผู้รับเหมาในการเลือกใช้เสาเข็ม และเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ซื้อบ้านในการได้บ้านที่ก่อสร้างอย่างแข็งแรง

"ในอดีตการตรวจสอบความสามารถการรับน้ำหนักของเสาเข็ม จะใช้วิธีนับการตอก 10 ครั้งสุดท้าย ว่าเสาเข็มเคลื่อนตัวลึกลงไปได้ เท่ากับระยะที่คำนวณไว้หรือไม่ ซึ่งลูกค้ายังไม่สามารถยืนยันว่าสามารถรับน้ำหนักได้จริงตามรายงานหรือไม่ แต่ด้วยปณิธานของดีคอน ไม่เพียงแต่เชื่อว่าดี แต่ต้องรู้ว่าดี สามารถพิสูจน์ได้ เราจึงเริ่มนวัตกรรมใหม่ในการส่งมอบงานเสาเข็ม นอกจากลูกค้าจะได้รับรายงานการทดสอบการตอก 10 ครั้งสุดท้ายตามปกติแล้ว ลูกค้าสามารถเรียกดูภาพวิดีโอจริง จากการตอกย้อนหลังทุกต้น เก็บเป็นหลักฐานไว้ที่บริษัท" นายวิทวัส กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ