ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ข่าวแบงค์ชาติจีนขึ้นดอกเบี้ย ฉุดน้ำมันดิบปิดร่วง $3.59

ข่าวต่างประเทศ Wednesday October 20, 2010 06:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 4% เมื่อคืนนี้ (19 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเหนือความคาดหมายเมื่อวานนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมเศรษฐกิจไม่ให้ขยายตัวร้อนแรงเกินไป มาตรการดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นักลงทุนลดการถือครองสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงน้ำมันดิบ

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ดิ่งลง 3.59 ดอลลาร์ หรือ 4.3% ปิดที่ 79.49 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนก.ย.ที่สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงต่ำกว่าระดับ 80 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 3.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.10 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาน้ำมันดิบเนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก 0.25% โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 1 ปี จะเพิ่มขึ้นจาก 2.25% เป็น 2.50% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 1 ปีจะเพิ่มขึ้นจาก 5.31% เป็น 5.56% โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพุธที่ 20 ต.ค.เป็นต้นไป

นักวิเคราะห์ในแวดวงพลังงานของสหรัฐกล่าวว่า การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเหนือความคาดหมายของธนาคารกลางจีนทำให้เกิดความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่ใช้พลังงานมากเป็นอันดับสองรองจากสหรัฐ

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยลบจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐจะพุ่งขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าดีมานด์พลังงานยังคงซบเซา

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.0 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้คาดว่า อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.3%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ