สมาพันธ์เหล็กและเหล็กกล้าของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลผลิตเหล็กดิบของญี่ปุ่นในเดือนมี.ค.ร่วงลง 2.7% จากปีที่แล้ว แตะที่ 9.09 ล้านตัน เนื่องจากผลกระทบของแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ผลผลิตเหล็กดิบของญี่ปุ่นปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 17 เดือน
ภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งนี้ส่งผลให้การผลิตเหล็กของบริษัทคาชิมะ สตีลเวิร์คส์ ในจังหวัดอิราบากิ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ซูมิโตโม เมทัล อินดัสทรีส์ ต้องหยุดลงชั่วคราว ขณะที่ผู้ผลิตเหล็กชั้นนำอีกหลายแห่งพากันลดผลิตเหล็กดิบเช่นกัน เนื่องจากวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของบริษัทโตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ (เทปโก) ส่งผลให้ไฟดับหลายแห่ง
อย่างไรก็ตาม ผลผลิตเหล็กดิบตลอดปีงบการเงิน 2553 พุ่งขึ้น 14.8% แตะที่ 110.77 ล้านตัน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกเหล็กไปขายยังประเทศต่างในเอเชีย รวมถึงจีน โดยผลผลิตเหล็กดิบปีงบ 2553 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปีงบ 2550 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่ผลผลิตเหล็กดิบของญี่ปุ่นจะได้รับผลกระทบจากการล้มละลายของบริษัทเลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้งส์ อิงค์ เมื่อเดือนธ.ค.2551 ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลก สำนักข่าวเกียวโดรายงาน