ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนวานนี้ (11 พ.ค.) ราคาสัญญาข้าวโพดปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงเมื่อวานนี้ เนื่องจากกระทรวงเกษตรของหสรัฐ (USDA) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปทานข้าวโพดของสหรัฐโดยไม่มีใครคาดคิด ซึ่งช่วยลดความวิตกกังวลต่อสถานการณ์อุปทานตึงตัวด้านอาหารและเชื้อเพลิง ส่วนข้าวสาลีและข้าวโพดก็ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค.ทรุด 30 เซนต์ หรือ 4.2% ปิดที่ 6.7725 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค.ทรุด 39.75 เซนต์ หรือ 5.0% ที่ 7.59 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 6.25 เซนต์ หรือ 0.5% ที่ 13.3175 ดอลลาร์/บุชเชล
ข้อมูลสถิติของ USDA ระบุว่า อุปทานข้าวโพดอาจแตะระดับ 730 ล้านบุชเชล ณ วันที่ 31 สิงหาคม เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับตัวเลขประมาณการณ์ในเดือนก่อน ขณะที่ได้ปรับลดคาดการณ์การส่งออกลง
การปรับเพิ่มแนวโน้มสต็อคข้าวโพดได้สร้างความประหลาดใจให้กับเทรดเดอร์และนักวิเคราะห์หลายราย เนื่องจากคาดว่า USDA จะปรับลดคาดการณ์ลงหรือคงตัวเลขไว้ที่ระดับเดิม
นอกจากนี้ USDA ยังปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดสต็อคถั่วเหลืองของสหรัฐขึ้นอีก 21% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้วเป็น 170 ล้านบุชเชล เนื่องจากการชะลอตัวลงของอุปสงค์ เพราะราคาที่พุ่งขึ้นได้สกัดความสนใจซื้อจากผู้ซื้อในต่างประเทศ
ในขณะเดียวกัน USDA ก็ปรับลดคาดการณ์ผลผลิตข้าวสาลีที่เพาะปลูกในช่วงฤดูหนาวของปีนี้ลงสู่ 1.42 ล้านบุชเชล หรือลดลง 4% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากภาวะแห้งแล้งที่ยาวนานในเขตเกรทเพลนส์ของสหรัฐทำให้ผลผลิตในเขตดังกล่าวลดลง
รายงานของ USDA ระบุว่า ภาวะผลผลิตพืชได้ลดลงจากปีที่แล้วในทุกรัฐสำคัญที่เพาะปลูกข้าวสาลีฤดูหนาวประเภทเมล็ดแข็ง ยกเว้นรัฐมอนทานา โดยยอดผลผลิตข้าวสาลีที่เพาะปลูกในช่วงฤดูหนาวของสหรัฐปัจจุบันคาดว่าจะอยูที่ 762 ล้านบุชเชล ลดลง 25% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ผลผลิตข้าวสาลีเมล็ดอ่อนในช่วงฤดูหนาวคาดว่าจะพุ่งขึ้นในปีนี้ เนื่องจากสภาพอากาศที่ดีขึ้นในเขตมิดเวสต์ โดยผลผลิตคาดว่าจะมีผลผลิตที่ 427 ล้านบุชเชลในปีนี้ เพิ่มขึ้น 80% จากปี 2553
ในขณะเดียวกัน ราคาพลังงานที่ร่วงลง รวมทั้งการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์เมื่อวานนี้ ต่างก็เพิ่มแรงกดดันต่อตลาดธัญพืช สำนักข่าวซินหัวรายงาน