สำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) คาดการณ์ว่า อัตราการใช้น้ำมันทั่วโลกจะขยายตัว 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็น 88.43 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2554 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัวเพียง 300,000 บาร์เรลต่อวัน และคาดว่าอัตราการใช้น้ำมันทั่วโลกในปี 2555 จะขยายตัว 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน
EIA คาดว่า อุปทานตลาดน้ำมันโลกจะตึงตัวไปจนถึงปี 2555 เนื่องจากความต้องการที่สูงขึ้น และเนื่องจากการผลิตที่ลดลงในประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปค
ขณะเดียวกัน EIA ประมาณการโดยอ้างอิงรายงานของสำนักงานสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐ (NOAA) ว่า ฤดูพายุเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกปีนี้จะส่งผลให้โรงกลั่นในอ่าวเม็กซิโกต้องระงับการผลิตน้ำมันดิบโดยรวม 19 ล้านบาร์เรล และระงับการผลิตก๊าซธรรมชาติโดยรวม 5.3 หมื่นล้านลูกบาศก์ฟุต
ทั้งนี้ NOAA คาดว่า สภาพอากาศในมหาสมุทรแอตแลนติกจะแปรปรวนอย่างมากในฤดูพายุเฮอริเคนปีนี้ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนมิ.ย.ไปจนถึงเดือนพ.ย.
นอกจากนี้ EIA ระบุว่า การที่ราคาน้ำมันเบนซินเคลื่อนไหวโดยเฉลี่ยที่ 3.96 ดอลลาร์/แกลลอนในช่วงกลางเดือนพ.ค.ที่ผ่านมานั้น เกิดจากภาวะตัดขัดด้านการลำเลียงขนส่ง อันเนื่องมาจากน้ำท่วมในแม่น้ำมิสซิสซิปปี และคาดว่าราคาน้ำมันเบนซินจะเคลื่อนไหวโดยเฉลี่ยที่ 3.75 ดอลลาร์/แกลลอนในช่วงฤดูการขับขี่ยานยนต์ในหน้าร้อนของสหรัฐ (เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย. - 30 ก.ย.) จากระดับ 2.76 ดอลลาร์/แกลลอนของฤดูการขับขี่ยานยนต์ในปีที่แล้ว สำนักข่าวซินหัวรายงาน