ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 ก.ค.) สัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายหลังจากสหรัฐเปิดเผยรายงานพื้นที่การเพาะปลูก แต่อย่างไรก็ตาม สัญญาถั่วเหลืองดีดตัวขึ้นเนื่องจากเทรดเดอร์มองว่าสัญญาได้ร่วงลงไปจนถึงระดับต่ำสุดแล้ว
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วง 23.75 เซนต์ หรือ 3.8% ปิดที่ 5.9675 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่ สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 2 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 6.1225 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่ง 18.5 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 13.125 ดอลลาร์/บุชเชล
นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า นักลงทุนเทขายอย่างต่อเนื่องจนถึงวันศุกร์หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลสต็อกธัญพืชและพื้นที่เพาะปลูกที่เป็นปัจจัยลบต่อตลาด ส่งผลให้ราคาร่วงอย่างหนักสู่ระดับต่ำสุดของการซื้อขายในระหว่างวันทั้งในตลาดข้าวโพดและข้าวสาลี
นอกจากนี้ การพยากรณ์ถึงสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีในช่วงวันหยุดยาวยังได้เพิ่มแรงกดดันต่อตลาดข้าวสาลี และฝนที่ตกน้อยลงในเขตที่ราบทางภาคเหนืออาจทำให้ภาวะการเติบโตของข้าวสาลีที่เพาะปลูกในในช่วงฤดูใบไม้ผลิดีขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม รายงานคาดการณ์เกี่ยวกับผลผลิตธัญพืชที่ลดลงในยุโรปและรายงานข่าวเกี่ยวกับคลื่นความร้อนในรัสเซียนั้น อาจทำให้ผลผลิตลดลงช่วยให้ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง โดย โคเซอร์รอล ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการล็อบบี้การค้าธัญพืชของสหภาพยุโรปได้ปรับลดคาดการณ์ผลผลิตข้าวสาลีลงสู่ระดับ 126.5 ล้านตัน จากตัวเลขที่ประเมินในเดือนมีนาคมที่ 131.44 ล้านตัน
ส่วนในตลาดถั่วเหลืองนั้น การที่ตลาดร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทำให้เทรดเดอร์มองว่าตลาดมีแรงเทขายเข้ามามากเกินไป หลังจากกระทรวงเกษตรสหรัฐเปิดเผยรายงานสต็อกธัญพืชและพื้นที่เพาะปลูก อย่างไรก็ตาม สัญญาถั่วเหลือปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัดเนื่องจากตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และแรงเทขายจำนวนมากในตลาดพลังงาน สำนักข่าวซินหัวรายงาน