นายประเสริฐ โกศัลวิตร อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า กรมการข้าวโดยสำนักวิจัยและพัฒนาข้าวซึ่งมีหน้าที่หลักในการศึกษา วิจัย พัฒนาพันธุ์ข้าว ในปีนี้ได้ส่งผลงานวิจัยเรื่อง“องค์ความรู้เรื่องข้าวลูกผสม สู่นาเกษตรกร" และ “กข45 ข้าวหอมน้ำลึกพันธุ์แรกของไทย" และข้าวลูกผสมไอบริด 2 สายพันธุ์คือ พันธุ์ PTT06001H เป็นข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสงให้ผลผลิตเฉลี่ย ประมาณ 996 กิโลกรัมต่อไร่ และสายพันธุ์ PTT06008H ข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสงให้ผลผลิตเฉลี่ย ประมาณ 1,073 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งพันธุ์ข้าวลูกผสมของไทยยังคงต้องพัฒนาต่อไป ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในงานนิทรรศการ Thailand Research Expo 2011 ในภาคนิทรรศการ ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 26 — 30 ส.ค.2554 ณ ศูนย์ประชุมบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร โดย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
สำหรับ ข้าวพันธุ์กข45 (หอมปราจีนบุรี) เป็นข้าวเจ้าน้ำลึกไวต่อช่วงแสง นับเป็นข้าวหอมพันธุ์น้ำลึกพันธุ์แรกของไทย ที่ได้จากการผสมพันธุ์ระหว่างข้าวสายพันธุ์ PCRBR83012-267-5 กับพันธุ์ ขาวดอกมะลิ 105 ที่ศูนย์วิจัยข้าวปราจีนบุรี ได้รับการรับรองพันธุ์เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2553 สามารถปลูกได้ในพื้นที่ที่มีระดับน้ำไม่เกิน 100 เซนติเมตร ได้รับการยอมรับจากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดี จำนวน 92 จาก 100 ราย ในเรื่องของคุณภาพการหุงต้มและรับประทาน ซึ่งเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดนครนายก และจังหวัดนครสวรรค์
ทั้งนี้ อยุธยา มีพื้นที่ปลูกข้าวน้ำลึกและขึ้นน้ำ ในพื้นที่น้ำลึกเกษตรกรนิยมปลูกข้าวพันธุ์พื้นเมือง ซึ่งให้ผลผลิตต่ำและคุณภาพเมล็ดไม่ดี เมื่อสีเป็นข้าวสารจะแตกหักมาก ข้าวสุกมีลักษณะร่วนแข็ง จึงไม่นิยมนำมาใช้บริโภคและขายผลผลิตไปทั้งหมด จึงเป็นที่มาของความต้องการพันธุ์ข้าวนาสวนที่มีคุณภาพหุงต้มและรับประทานที่ดี มาปลูก เช่น ขาวดอกมะลิ 105 และพันธุ์อื่นๆ แต่ก็ไม่สามารถให้ผลผลิตได้ดีในสภาพน้ำลึก กรมการข้าว โดยศูนย์วิจัยข้าวปราจีนบุรี จึงได้พัฒนาพันธุ์ข้าว กข45 (หอมปราจีนบุรี) เพื่อตอบสนองความต้องการของเกษตรกรในพื้นที่ปลูกข้าวน้ำลึกที่ต้องการปลูกข้าวคุณภาพดีเพื่อการบริโภคในครัวเรือนและกระจายผลผลิตสู่ผู้บริโภคทั้งในจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง