Analysis: แนวโน้มราคาน้ำมันที่ชะลอตัวอาจสกัดความร้อนแรงของเงินเฟ้อ

ข่าวต่างประเทศ Thursday August 25, 2011 11:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์หลายคนในสหรัฐมองว่า ในขณะที่สหรัฐกำลังต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจซบเซา และความขัดแย้งทางการเมืองในเรื่องปัญหาหนี้สินนั้น แต่สหรัฐก็ยังมีข่าวดีอยู่บ้างในขณะนี้ ก็คือ ราคาน้ำมันในปัจจุบันอาจจะทำให้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐปรับตัวลงมาอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้

เจมส์ เอฟ สมิธ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท พาร์เซค ไฟแนนเชียล ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งในสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า ในขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องนั้น อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐและยุโรปก็อาจจะปรับตัวลงในปีหน้าและอาจจะถึงปีถัดไป ซึ่งเป็นเพราะว่าน้ำมันมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ และถูกนำไปใช้ในวงกว้าง ตั้งแต่การใช้เป็นเชื้อเพลิงเพื่อสร้างความอบอุ่นในครัวเรือน ไปจนถึงการใช้เป็นเชื้อเพลิงด้านการขนส่ง ตลอดจนให้พลังงานในอาคารสำนักงาน เมื่อต้นทุนเหล่านี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น บริษัทเอกชนก็จะผลักภาระต้นทุนไปให้กับผู้บริโภค

ส่วนข่าวดีด้านอื่นๆก็คือ รายได้ส่วนบุคคลในสหรัฐยังคงปรับตัวขึ้นรวดเร็วกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) หรือตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคล ทั้งนี้ สมิธกล่าวว่า ตราบใดที่สถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ ยอดค้าปลีกก็จะยังปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของยอดค้าปลีกสินค้าที่ผลิตในจีนและประเทศอื่นๆ รวมถึงยอดค้าปลีกในภาคบริการ

เงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้นชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นก่อนที่จะชะลอตัวลงหรือปรับตัวลดลง โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ในเดือนมิ.ย.

เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า นโยบายต่างๆของเฟดเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้มองว่า การปรับตัวของอัตราเงินเฟ้อจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น และยืนยันว่าเงินเฟ้อในสหรัฐยังคงอยู่ในระดับต่ำ

ราคาอาหารปรับตัวสูงขึ้นในสหรัฐ

แต่ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐไม่ได้อยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆทั่วโลกนั้น ชาวอเมริกันก็ยังไม่วายบ่นว่า ราคาอาหารแพงขึ้น โดยผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนซึ่งจัดทำโดยราสมุสเซนระบุว่า 93% ของชาวอเมริกันที่ตอบรับการสำรวจกล่าวว่า พวกเขาต้องจ่ายเงินซื้อข้าวของที่จำเป็นในครัวเรือนในราคาที่แพงขึ้นจากปีที่แล้ว

ถึงกระนั้นก็ตาม แบร์รี่ บอสเวิร์ธ นักเศรษฐศาสตร์จาก Brookings Institution มองว่า อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐซึ่งยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำเกินไป และจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รายได้ส่วนบุคคลในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นด้วย

ราคาข้าวสูงขึ้น จุดชนวนความวิตกกังวลในเอเชีย

ขณะเดียวกันเอเชียอาจจะเผชิญกับความเสี่ยงครั้งใหม่ด้านเงินเฟ้อ โดยเมื่อไม่นานมานี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะปรับปรุงมาตรฐานความเป็นอยู่ของชุมชนในพื้นที่ห่างไกลของไทย ด้วยการปรับขึ้นราคาข้าว

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย มีมติให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% จาก 3.25% ต่อปี เป็น 3.50% ต่อปี โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมเงินเฟ้อที่อาจจะเป็นผลมาจากนโยบายของนายกฯที่ต้องการเพิ่มรายได้

ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารที่จำเป็นรายใหญ่ และภูมิภาคเอเชียมีอัตราส่วนการบริโภคข้าวสูงถึง 87% ของการบริโภคข้าวทั่วโลก ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่า ราคาข้าวที่ปรับตัวสูงขึ้นในประเทศไทยจะก่อให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อในภูมิภาคเอเชีย

บทสัมภาษณ์โดย แมทธิว รัสลิง จากสำนักข่าวซินหัว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ