ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) สัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ปรับเพิ่มประมาณการณ์ยอดสต๊อกข้าวโพดและข้าวสาลี และยังได้ปรับลดคาดการณ์ยอดสต๊อกถั่วเหลืองลงด้วย
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.5 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 6.3825 ดอลลาร์/บุชเชล ในขณะที่ สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.75 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 6.18 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 17.5 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 12.57 ดอลลาร์/บุชเชล
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ยอดสต๊อกสำรองที่สูงกว่าการคาดการณ์ยังคงเป็นแรงกดดันต่อราคาข้าวโพดและข้าวสาลีอย่างต่อเนื่องเมื่อวานนี้ ในขณะที่ตลาดถั่วเหลืองได้รับแรงหนุนจากการปรับลดประมาณการณ์ยอดสต๊อกลง
รายงานอุปสงค์-อุปทานของ USDA ระบุว่า ยอดสต๊อกข้าวโพดสหรัฐสำหรับปีการตลาด 2554/2555 อาจแตะที่ 866 ล้านบุชเชล ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการคาดการณ์เป็นอย่างมาก และได้เพิ่มแรงกดดันต่อราคาข้าวโพด ในขณะที่ตัวเลขคาดการณ์ยอดสต๊อกข้าวสาลีก็สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดเช่นเดียวกัน โดยปรับขึ้นไปเป็น 837 ล้านบุชเชล
นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังได้ปรับเพิ่มยอดสต๊อกข้าวโพดและข้าวสาลีในในตลาดโลกเป็น 123.2 ล้านตัน และ 202.4 ล้านตัน ตามลำดับ
เทรดเดอร์รายหนึ่งกล่าวว่า เขาคาดว่าภาวะตลาดจะยังคงซบเซาลงต่อไปอีกหลังการรายงานของ USDA แต่ปริมาณการซื้อขายก็ยังคงสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดมาโดยตลอด
ในขณะเดียวกัน ราคาถั่วเหลืองยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้น เนื่องจากรายงานของ USDA ถือเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาด รวมทั้งความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในยุโรปก็เป็นแรงหนุนต่อตลาดเช่นเดียวกัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน