สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากที่สัญญาน้ำมันพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันก่อน นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงการแก้ไขปัญหาหนี้ของผู้นำสหภาพยุโรป (อียู)
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดลบ 64 เซนต์ หรือ 0.68% ปิดที่ 93.32 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 2.17 ดอลลาร์ หรือ 1.94% ปิดที่ 109.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับฐานลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันพฤหัสบดี ภายหลังจากที่ประชุมสุดยอดผู้นำอียู ลงมติใช้มาตรการควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มขนาดของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในไตรมาส 3
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนกังวลว่ากองทุน EFSF จะมีศักยภาพมากพอที่จะควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะได้หรือไม่
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากภาวะการซื้อขายโดยรวมได้รับแรงหนุนจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนก.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับอัตราการขยายตัวในเดือนส.ค. เพราะได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดการใช้จ่ายด้านสินค้าคงทน รวมถึงรถยนต์ ส่วนรายได้ส่วนบุคคลปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ย. หลังจากที่ปรับตัวลดลง 0.1% ในเดือนส.ค.