ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนที่ผ่านมา (14 พ.ย.) สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังมีการเปิดเผยข้อมูลว่ายอดส่งออกถั่วเหลืองประจำสัปดาห์เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาถั่วเหลืองที่ถูกลงอาจดึงดูดผู้ซื้อจากจีนกลับเข้ามาในตลาดอีกครั้ง ส่วนข้าวโพดและข้าวสาลียังคงปรับตัวลดลง
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 5 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 6.335 ดอลลาร์/บุชเชล ในขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 6.1575 ดอลลาร์/บุชเชลและ สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 2.75 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 11.7825 ดอลลาร์/บุชเชล
รายงานของกระทรวงเกษตรของสหรัฐบ่งชี้ว่า ผลการสำรวจยอดส่งออกถั่วเหลืองประจำสัปดาห์พบว่าอยู่ที่ 53.5 ล้านบุชเชล ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการคาดการณ์ ในขณะที่จีนมียอดสั่งซื้อในสัปดาห์ดังกล่าว 35.2 ล้านบุชเชล
เทรดเดอร์กล่าวว่า การที่ราคาถั่วเหลืองปรับตัวลดลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ได้ดึงดูดผู้ซื้อจากจีนและประเทศอื่นๆ กลับเข้ามาในตลาด ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนุนต่อราคา
ในขณะเดียวกัน ตลาด CBOT ก็ได้รับแรงหนุนจากมุมมองในที่เป็นบวก หลังกรีซและอิตาลีจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เพื่อแก้ปัญหาทางการเงินของประเทศ อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาด CBOT ได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของเงินสกุลดอลลาร์ เนื่องจากการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์ส่งผลให้ธัญพืชส่งออกมีราคาที่สูงขึ้นในตลาดโลก
ราคาข้าวโพดยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อวานนี้ อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่า ผู้ผลิตอาหารสัตว์ในพื้นที่ชายฝั่งภาคตะวันออกของสหรัฐอาจจะนำเข้าข้าวสาลีมาใช้แทนข้าวโพด ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวได้ฉุดราคาข้าวโพดร่วงลง แม้ว่าถั่วเหลืองจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งก็ตาม
นอกจากนี้ ข้าวสาลีก็ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน เนื่องจากข้อมูลการส่งออกประจำสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า ข้าวสาลีมียอดส่งออกเพียง 10.35 ล้านบุชเชล ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน