ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 พ.ย.) สัญญาข้าวสาลีปรับตัวเพิ่มขึ้นปานกลาง เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการช้อนซื้อเก็งกำไร หลังสัญญาร่วงลงอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้ ในขณะที่ข้าวโพดปรับตัวลดลงและถั่วเหลืองเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.25 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 6.1025 ดอลลาร์/บุชเชล ในขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.75 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 5.9825 ดอลลาร์/บุชเชลและ สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. ปิดทรงตัวที่ 11.6825 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาข้าวสาลีฟื้นตัวหลังจากที่อ่อนแรงลงในการซื้อขายเมื่อวันก่อน อันเป็นผลเนื่องมาจากอุปทานจำนวนมากในตลาดโลกและความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นว่า ปัญหาหนี้สินในยูโรโซนจะส่งผลกระทบต่อตลาด CBOT อย่างไรก็ตาม การอ่อนค่าลงของเงินสกุลดอลลาร์และการปรับฐานลดลงเมื่อไม่นานมานี้ได้ดึงดูดนักเก็งกำไรกลับเข้ามาในตลาด ซึ่งเป็นปัจจัยดังกล่าวเป็นแรงหนุนต่อราคาข้าวสาลี
แต่สัญญาข้าวโพดยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน เนื่องจาดตลาดสหรัฐกำลังเผชิญกับการแข่งขันอย่างรุนแรงจากผู้ส่งออกในต่างประเทศ เช่นเดียวข้าวสาลีของสหรัฐ โดยมีรายงานว่า ผู้ผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่ของเกาหลีใต้ได้สั่งซื้อข้าวสาลีสำหรับเลี้ยงสัตว์ 55,000 ตัน และข้าวโพดจำนวน 125,000 ตัน โดยมียอดสั่งซื้อข้าวโพดจากสหรัฐเพียง 70,000 ตัน
ทิม แฮนนาแกน ผู้เชี่ยวชาญด้านธัญพืชจาก PFGbest ในชิคาโก้ กล่าวว่า "เป็นเวลาหลายเดือนมาแล้วที่ ธุรกิจขนาดเล็กประเทศต่างๆ มองหามองหาปริมาณ มากกว่าคุณภาพ ในขณะที่ธุรกิจขนาดใหญ่ที่ซื้อขายธัญพืชคุณภาพสูงสำหรับการบริโภคของมนุษย์ยังคงหันไปหายูเครน ออสเตรเลีย และประเทศขนาดเล็กในยุโรป"
ส่วนในตลาดถั่วเหลือง กระทรวงเกษตรสหรัฐยืนยันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ภาคเอกชนได้ขายข้าวโพดจำนวน 124,500 ตันให้กับจีน ซึ่งช่วยเพิ่มบรรยากาศที่เป็นบวกต่อตลาด แต่อย่างไรก็ดี ราคาถั่วเหลืองยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเทรดเดอร์และนักลงทุนได้ปลีกตัวออกจากตลาด เนื่องจากการคาดการณ์ในด้านลบที่มีต่อข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในช่วงสุดสัปดาห์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน