ภาวะตลาดน้ำมันข้อมูลศก.สหรัฐ,เยอรมนีหนุนน้ำมันดิบ WTI ปิดพุ่ง $1.55

ข่าวต่างประเทศ Friday February 24, 2012 07:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากจำนวนคนว่างานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ยังคงเคลื่อนไหวที่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐช่วยให้สัญญาน้ำมันดิบมีความน่าดึงดูดใจมากขึ้นด้วย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยชดเชยสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.55 ดอลลาร์ หรือ 1.46% ปิดที่ 107.83 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 108.65 - 105.45 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 72 เซนต์ หรือ 0.6 % สู่ 123.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 122.10 - 124.50 ดอลลาร์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นทันทีที่สถาบัน Ifo รายงานว่า ดัชนีความชื่อมั่นธุรกิจดีดขึ้นสู่ระดับ 109.6 จุด จากระดับ 108.3 จุดในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2554 และสหรัฐรายงานว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วทรงตัวอยู่ที่ระดับ 351,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนมากขึ้นหลังจากมีรายงานว่าอิหร่านไม่อนุญาตให้สำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้าถึงพื้นที่ที่ IAEA ต้องการจะตรวจสอบในสัปดาห์นี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้ตลาดกังวลเรื่องการเผชิญหน้ากันระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตก

นายยูกิยะ อะมาโน ผู้อำนวยการ IAEA ยืนยันว่า IAEA ยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงใดๆ กับอิหร่านในประเด็นโครงการนิวเคลียร์ ในระหว่างการเดินทางไปยังกรุงเตหะรานรอบที่ 2 ของคณะเจ้าหน้าที่ IAEA ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงบรรยากาศที่ยังตึงเครียดประเด็นอิหร่าน ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์เกรงว่าอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าที่รุนแรง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันในที่สุด

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ได้แรงหนุนหลังจากโกลด์แมน แซคส์คาดว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 127.50 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วง 12 เดือนข้างหน้า พร้อมระบุว่าสต็อกน้ำมันทั่วโลกไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก แม้ซาอุอาระเบียผลิตน้ำมันดิบที่ระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี และลิเบียกำลังผลิตน้ำมันกลับเข้าสู่ตลาดก็ตาม

ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐและยุโรป รวมทั้งสถานการณ์ตึงเครียดในอิหร่านนั้น ช่วยชดเชยปัจจัยลบจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่ 17 ก.พ. พุ่งขึ้น 1.63 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 340.71 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 400,000 บาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 208,000 บาร์เรล แตะที่ 143.51 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 1.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 649,000 บาร์เรล แตะที่ 231.53 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันพุ่งขึ้น 1.5% แตะ 85.5% ตรงข้ามกับที่คาดว่าจะลดลง 0.3%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ