ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.21 เหตุตลาดผิดหวังผลประชุม G20

ข่าวต่างประเทศ Tuesday February 28, 2012 07:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และหลังจากที่ประชุมกลุ่ม G20 ได้เลื่อนการตัดสินใจที่จะเพิ่มทุนทรัพย์ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกไปเป็นเดือนเม.ย.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 1.21 ดอลลาร์ หรือ 1.10% ปิดที่ 108.56 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 109.77 - 107.27 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย.ดิ่งลง 1.20 ดอลลาร์ หรือ 1.04% ปิดที่ 124.17 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 123.61 - 125.51 ดอลลาร์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบร่วงลง หลังจากจากที่พุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวัน หลังจากที่ประชุม G20 ได้เลื่อนการตัดสินใจเรื่องการเพิ่มทุนทรัพย์ให้กับ IMF ออกไปเป็นเดือนเม.ย. เพราะต้องการรอดูผลการประชุมผู้นำ 17 ชาติสมาชิกยูโรโซนซึ่งจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้ นอกจากนี้ กลุ่ม G20 ยังได้แจ้งต่อยุโรปว่า ยุโรปจำเป็นต้องจัดสรรเงินมากยิ่งขึ้นเพื่อนำมาใช้ในการแก้ไขวิกฤติหนี้สินของยุโรปก่อน ถ้าหากยุโรปต้องการจะได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากประเทศอื่นๆ

นักลงทุนผิดหวังต่อผลการประชุม G20 เป็นอย่างมาก เนื่องจากได้มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ที่ประชุมจะพิจารณาเรื่องการเพิ่มทุนทรัพย์ให้กับ IMF และจะประกาศมาตรการที่เป็นรูปธรรมในการแก้ไขวิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซน

นอกจากนี้ ที่ประชุม G20 ยังเตือนว่า ราคาน้ำมันดิบมีความเสี่ยงที่สูงขึ้นอีก เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ที่ประชุมได้กล่าวชื่นชมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่สร้างความเชื่อมั่นว่าอุปทานน้ำมันทั่วโลกจะมีอย่างเพียงพอ

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากข่าวที่ว่า บริษัท ทรานส์แคนาดา คอร์ป ตั้งเป้าที่จะสร้างท่อส่งน้ำมันคีย์สโตน เอ็กซ์แอลขนาด 7 พันล้านดอลลาร์เฉพาะส่วนภาคใต้ก่อน โดยการสร้างท่อส่งน้ำมันเฉพาะภาคใต้นี้จะส่งผลให้โครงการนี้ไม่จำเป็นต้องได้รับการพิจารณาอย่างเต็มที่จากรัฐบาลกลางสหรัฐ และจะกระตุ้นให้มีการนำน้ำมันดิบออกจากคลังเก็บที่เมืองคุชชิง รัฐโอกลาโฮมา

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติที่ว่า ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ประจำเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 2% มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1% ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐ

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะทรงตัวที่ 85.5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ