สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนเม.ย. ดิ่งลง 1.20 ดอลลาร์ แตะที่ 105.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก เมื่อเวลา 13.29 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการอุปโภคบริโภคของจีนจะชะลอตวลง หลังจากที่รัฐบาลจีนปรับลดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้
ในระหว่างการแถลงในที่ประชุมประจำปีของรัฐสภาจีนในวันนี้ นายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีของจีนระบุว่า รัฐบาลรัฐบาลจีนได้ปรับลดเป้าหมายการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.5% จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ที่ 8% ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลจีนได้ปรับลดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังจากที่ได้คงเป้าหมายเอาไว้ที่ 8% มาเป็นเวลา 7 ปีติดต่อกัน
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังได้ตั้งเป้าที่จะควบคุมการขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อ ให้อยู่ที่ระดับ 4% ในปี 2555 หลังจากที่ดัชนีซีพีไอขยายตัวที่ระดับ 5.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในปี 2554
นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมระหว่างนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐว่าในวันนี้ ซึ่งผู้นำทั้งสองจะหารือกันเกี่ยวกับการตอบโต้โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน หลังจากโอบามาแถลงในที่ประชุมคณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการสาธารณะอเมริกัน-อิสราเอลเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐไม่ลังเลที่จะใช้กำลังทางทหารกับอิหร่านหากจำเป็น
อย่างไรก็ตาม โอบามากล่าวว่า ยังพอมีเวลาที่สหรัฐจะใช้วิธีการทางการทูตและการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้เวลา 22.00 น.
ส่วนในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 4.16 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 344.87 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง