ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) สัญญาถั่วเหลืองพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. ด้านสัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีปรับลดลงจากแรงกดดันของเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับลดลง 3.25 เซนต์ หรือ 0.51% แตะที่ 6.5875 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 5.25 เซนต์ หรือ 0.83% ปิดที่ 6.4375 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับสูงขึ้น 1.5 เซนต์ หรือ 0.12% ปิดที่ 13.5025 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
สัญญาข้าวโพดปรับตัวลงเนื่องจากความวิตกกังวลว่า ตลาดอาจมีแรงซื้อเข้ามามากจนเกินไป ขณะที่มีข่าวจีนซื้อข้าวโพดสหรัฐยังไม่ได้รับการยืนยัน ด้านเทรดเดอร์ยังคงรับมุมมองเกี่ยวสภาวะอากาศว่า อากาศที่ร้อนอบอ้าวผิดฤดูกาลอาจเร่งให้เกิดการเพาะปลูกฤดูในไม้ผลิ ซึ่งทำให้เกิดแรงเทขายในตลาด
นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากสภาธัญพืชระหว่างประเทศ (IGC) คาดว่า ผลผลิตข้าวโพดของโลกจะเพิ่มขึ้น โดย IGC คาดการณ์อยู่ที่ 880 ล้านตันในฤดูกาลนี้ เป็นการปรับเพิ่มตัวเลขประมาณการขึ้น 16 ล้านตัน
ขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์ที่ปรับแข็งค่าขึ้นก็ได้สร้างแรงกดดันในตลาดข้าวสาลีและข้าวโพด นอกจากนั้น สัญญาข้าวสาลียังได้รับแรงกดดันจากสภาวะอากาศที่อบอุ่นขึ้นที่อาจทำให้ข้าวสาลีมีอุดมสมบูรณ์
IGC คาดการณ์ว่าปริมาณข้าวสาลีในฤดูกาลนี้จะลดลง 15 ล้านตัน เหลือ 680 ล้านตัน
สำหรับสัญญาถั่วเหลืองซึ่งปิดพุ่งทำสถิติใหม่ได้รับปัจจัยหนุนจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลผลิตในอเมริกาใต้จากสภาพอากาศชื้นในอาร์เจนติน่าและอากาศแห้งในบราซิล ขณะเดียวกันการหยุดงานประท้วงของแรงงานที่ท่าเรืออาร์เจนติน่ายุติลงแล้ว ซึ่งได้คลี่คลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการส่งออกของอาร์เจนติน่า สำนักข่าวซินหัวรายงาน