สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนมิ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15 เซนต์ แตะที่ 92.71 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 12.43 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมัน WTI ยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป ลังจากที่นายวูลฟ์กัง ชูเบิล รัฐมนตรีคลังเยอรมนีเปิดเผยว่า วิกฤตหนี้ยุโรปอาจยืดเยื้อไปอีก 2 ปี ซึ่งถ้อยแถลงของนายชูเบิลยังได้ส่งผลให้เงินยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันยังเผชิญกับปัจจัยลบจากรายงานที่บ่งชี้ถึงภาวะชะลอตัวในจีน โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า ราคาบ้านใหม่ในเมืองใหญ่ๆของจีนปรับตัวลงอีกครั้งในเดือนเม.ย. ขณะที่จีนยังคงดำเนินมาตรการเพื่อควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ บ้านใหม่ใน 43 จาก 70 เมืองใหญ่ของจีนมีราคาลดลงในเดือนเม.ย. จากเดือนมี.ค. ขณะที่ราคาบ้านใหม่ใน 24 เมืองยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันหลังจากฟิทช์ เรทติ้งประกาศลดอันดับเครดิตตราสารหนี้กรีซจาก B- สู่ CCC จากความเสี่ยงที่ว่า กรีซอาจจะจำเป็นต้องออกจากยูโรโซน โดยระบุว่ผลการเลือกตั้งรัฐสภาในวันที่ 6 พ.ค.แสดงว่า พรรคที่ต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดได้รับการสนับสนุนอย่างมาก และการที่กรีซไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ทำให้มีความเสี่ยงสำหรับแผนความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป (อียู)-กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จำนวน 1.73 แสนล้านยูโร และหากว่ากรีซไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ในวันที่ 17 มิ.ย. ก็มีความเป็นไปได้ที่กรีซจะออกจากยูโรโซน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียรายงานว่า ดัชนีการผลิตในเขตดังกล่าว ร่วงลงสู่ระดับ -5.8 จุดในเดือนพ.ค.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว จากเดือน 8.5 จุดของเดือนเม.ย. ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 พ.ค. พุ่งขึ้น 2.13 ล้านบาร์เรล แตะที่ 381.64 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.4 ล้านบาร์เรล