สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก ลดลง 1.16 ดอลลาร์ สู่ระดับ 86.50 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากตลาดกังวลว่าสภาพเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันลดลง
นักวิเคราะห์กล่าวว่า มีหลายปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ได้แก่ วิกฤตหนี้ยุโรปและเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวจนอาจทำให้ความต้องการน้ำมันลดลง สถานการณ์คนงานบริษัทน้ำมันในประเทศนอร์เวย์หยุดงานประท้วงที่เริ่มคลี่คลายหลังมีการเจรจากัน และการที่นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันเพื่อทำกำไรหลังจากที่ราคาน้ำมันดีดตัวเมื่อวันอังคาร
ประเด็นสถานการณ์เกี่ยวกับอิหร่านก็ยังคงเป็นที่สนใจในตลาด หลังมีข่าวในช่วงต้นสัปดาห์ว่ารัฐสภาอิหร่านเตรียมออกกฎหมายเพื่อให้อำนาจรัฐบาลในการปิดช่องแคบฮอร์มุซในอ่าวเปอร์เซียเพื่อตอบโต้ที่สหภาพยุโรป (อียู) คว่ำบาตรการส่งน้ำมันของอิหร่าน ขณะที่สหรัฐออกมาในเวลาต่อมาว่าระบุว่าจะทำทุกวิถีทางที่จำเป็นเพื่อทำให้ช่องแคบฮอร์มุซยังคงเป็นเส้นทางที่เปิดใช้การได้
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันของสหรัฐประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 มิ.ย. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจขยับลง 0.1%
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์กล่าวว่าตลาดวันนี้จะค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากเป็นวันหยุดเนื่องในวันชาติของสหรัฐ