ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (30 ส.ค.) สัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีปรับตัวลดลงจากแรงเทขายทำกำไรของเทรดเดอร์ ขณะที่สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากวิตกกังวลเกี่ยวกับพายุเฮอร์ริเคนไอแซคหนุนภาวะการซื้อขาย
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 5 เซนต์ หรือ 0.61% ปิดที่ 8.085 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.75 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 9.03 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ดีดขึ้น 10.5 เซนต์ หรือ 0.6% 17.635 ดอลลาร์/บุชเชล
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CME (Chicago Merchandise Exchange) ระบุว่า สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ภายหลังภาวะการซื้อขายอยู่ในแดนบวกในระหว่างวัน โดยมีแรงเทขายทำกำไรเกิดขึ้นในช่วงท้ายการซื้อขาย เนื่องจากเทรดเดอร์ปรับโพสิชั่นก่อนนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้
ขณะที่ยอดการส่งออกข้าวโพดได้สร้างแรงกดดันแก่ช่วงขาขึ้นของสัญญา ภายหลังมีรายงานว่ายอดส่งออกข้าวโพดต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยยอดส่งออกข้าวโพดสุทธิประจำสัปดาห์อยู่ที่ 134,800 ตัน โดยยอดส่งออกในช่วงขาลงบ่งชี้ว่า ผู้ซื้อต่างประเทศได้เปลี่ยนความสนใจไปยังผู้ผลิตรายอื่น หรือใช้ข้าวสาลีเป็นส่วนผสมอาหารสัตว์ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น
สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ ภายหลังสัญญาข้าวสาลีอยู่ในทิศทางช่วงขาลงจนกระทั่งปิดตลาด ซึ่งเกิดจากแรงเทขายทำกำไรข้าวสาลีซึ่งมีราคาสูงในช่วงก่อนหน้านี้
สำหรับสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.ปรับตัวสูงขึ้น และเป็นระดับสูงสุดของสัญญาส่งมอบเดือนพ.ย. โดยข้อมูลการส่งออกที่แข็งแกร่ง และความวิตกกังวลว่า ฝนที่ตกอย่างหนักอาจสร้างความเสียหายในภาคตะวันออกเฉียงใต้ได้ช่วยหนุนการซื้อขาย ขณะเดียวกันมีแรงเทขายทำกำไรในท้ายตลาด ซึ่งส่งผลให้สัญญาถั่วเหลืองอ่อนแรงจากระดับสูงสุด ขณะที่เทรดเดอร์เตรียมรอฟังสุนทรพจน์ของนายเบอร์นันเก้ในวันนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน