ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ข่าวพายุ-เฟดลดดบ. ดันราคาน้ำมันพุ่งปิดที่ 71.98$

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 98 เซนต์เมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนส่งแรงซื้อเก็งกำไรเข้าสู่ตลาดอย่างคึกคัก หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานเพื่อพลิกฟื้นวิกกฤตการณ์การเงินในตลาดสินเชื่อ
          นอกจากนี้ ข่าวเพลิงไหม้ที่โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทเชฟรอน และรายงานที่ว่าพายุเฮอริเคน"ดีน" กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกและอาจจะสร้างความเสียหายต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ ก็เป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นนักลงทุนให้ส่งคำสั่งซื้อเข้าตลาดเช่นกัน
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 98 เซนต์ ปิดที่ 71.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 
          ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 6.05 เซนต์ ปิดที่ 2.0388 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 67 เซนต์ ปิดที่ 70.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          นักลงทุนในตลาดน้ำมันนิวยอร์กขานรับเฟดที่ตัดสินใจประกาศลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (discount rate) ลง 0.50% สู่ระดับ 5.75% เพื่อบรรเทาความผันผวนในตลาดสินเชื่อ หลังจากก่อนหน้านี้ตลาดน้ำมันได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กและภาวะผันผวนในตลาดสินเชื่อของสหรัฐ
          นายไมเคิล ลินช์ นักวิเคราะห์จากบริษัทสตราเทจิก เอนเนอร์จี แอนด์ อิโคโนมิค รีเสิร์ชกล่าวว่า "นอกเหนือจากเฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว อิทธิพลของพายุดีนทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบเดือนก.ย.อย่างหนาแน่น".
          ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า พายุโซนร้อนดีนได้ทวีความรุนแรงจนกลายเป็นพายุเฮอริเคนในระดับที่ 3 ด้วยกำลังลม 125 ไมล์ต่อชั่วโมง และคาดว่าจะพัดเข้าสู่อ่าวเม็กซิโก ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในพื้นที่ดังกล่าว 
          บริษัทเชลล์ ออยล์ เปิดเผยว่า บริษัทจะอพยพพนักงานออกจากแท่นขุดเจาะในอ่าวเม็กซิโกอีก 275 คนหลังจากที่อพยพไปแล้ว 188 คน เพื่อหลบภัยพายุเฮอริเคนดีและพายุลูกอื่นๆที่อาจจะก่อตัวขึ้นอีก
          นอกจากนี้ มีรายงานว่าเกิดเพลิงไหม้ค่อนข้างรุนแรงที่โรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทเชฟรอนในสหรัฐ ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองปาสคาโกลา รัฐมิสซิสซิปปี้  โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งมีส่วนผสมของไฮโดรคาร์บอนเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ 
          โรงกลั่นน้ำมันแห่งนี้ได้รับการสร้างขึ้นที่บริเวณชายฝั่งมิสซิสซิปปีตั้งแต่ปี 2506 และเป็น 1 ใน 10 โรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ โดยสามารถผลิตน้ำมันดิบได้กว่า 330,000 บาร์เรลต่อวัน