ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ราคาน้ำมันดิบพุ่งปิด 81.93$ หลังน้ำมันสำรองร่วง

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 42 เซนต์เมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) โดยในระหว่างวันนั้นราคาทะยานขึ้นทำนิวไฮติดต่อกัน 7 วันทำการ หลังจากมีข่าวว่าโรงกลั่นน้ำมันในรัฐเท็กซัสและแคลิฟอร์เนียประสบปัญหาติดขัด และหลังจากกระทรวง
พลังงานสหรัฐรายงานว่าน้ำมันดิบสำรองทรุดตัวลงเกินคาด
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 42 เซนต์ ปิดที่ 81.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 80.87-82.51 ดอลลาร์
          ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 0.30 เซนต์ ปิดที่ 2.2453 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนต.ค.ดีดขึ้น 3.31 เซนต์ ปิดที่ 2.0934 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่พุ่ง 88 เซนต์ ปิดที่ 78.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          นักลงทุนกังวลว่าอาจเกิดภาวะอุปทานพลังงานตึงตัวในสหรัฐ หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 14 ก.ย.ทรุดตัวลง 3.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 318.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 2.0 ล้านบาร์เรล
          อย่างไรก็ตาม น้ำมันเบนซินสำรองขยับขึ้น 400,000 บาร์เรล สู่ระดับ 190.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 700,000 บาร์เรล และน้ำมันกลั่นสำรองซึ่งรวมน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซลเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 135.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล
          ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า พายุไซโคลนเขตร้อนอาจก่อตัวขึ้นในช่วง 1-2  วันข้างหน้า ซึ่งความกังวลเรื่องสภาพอากาศส่งผลให้บริษัทน้ำมันบางแห่งในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งรวมถึงบริษัทเชลล์ ออยล์ โค, บีพี, โทเทล, และรอยัล ดัทช์ เชลล์ อพยพพนักงานที่ไม่จำเป็นออกจากอ่าว
          นอกจากนี้ สำนักข่าวดาวโจนส์ นิวส์ไวร์รายงานว่า บริษัทเอ็กซอนโมบิล ประกาศปิดโรงกลั่นน้ำมันที่เมืองโบมอนท์ รัฐเท็กซัส ซึ่งมีกำลังการผลิต 348,000 บาร์เรลต่อวัน และโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทเชฟรอนที่เมืองเอล เซกันโด รัฐแคลิฟอร์เนีย ต้องปิดการดำเนินการ ซึ่งโรงกลั่นแห่งนี้มีกำลังการผลิต 266,000 บาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบแน่ชัดถึงเหตุผลของการระงับการผลิตในครั้งนี้