สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (23 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,000 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ การที่ดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆและราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกดิ่งลง นับเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาทองคำร่วงลงด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 995.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 7.20 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 999.60-976.20 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 14.450 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 4.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.8 เซนต์ ปิดที่ 1.4510 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,079.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 16.20 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนมี.ค.ปิดที่ 200.25 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 16.30 ดอลลาร์
ทอม พอว์ลิคกี นักวิเคราะห์จากเอ็มเอฟ โกลบอล กล่าวว่า นักลงทุนเทขายทำกำไรสัญญาทองคำเดือนเม.ย. หลังจากสัญญาทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,000 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันศุกร์ นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ และราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ที่ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 39 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ราคาทองคำในตลาดโลกในสัปดาห์นี้อาจพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 และมีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 1,000 ดอลลาร์/ออนซ์ไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากนักลงทุนยังคงมองว่าทองคำเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดภัยในยามที่ตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวลง
ณ วันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนแลกเปลี่ยนทองคำรายใหญ่ของโลก ถือครองทองคำมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 1,029 เมตริกตัน