สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) ซึ่งนักลงทุนถือว่าเป็นการปรับฐานลงตามปกติหลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นกว่า 13% ในระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังปรับตัวสูงขึ้นกว่า 6.6% สำหรับปีนี้ และนักลงทุนคาดว่าอุปสงค์ทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นในระยะยาวท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจและภาวะตลาดหุ้นที่ย่ำแย่เช่นนี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับตัวลดลง 10 เซนต์ ปิดที่ 942.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 13.5 เซนต์ ปิดที่ 13.11 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 4.05 เซนต์ ปิดที่ 1.5385 ดอลลาร์/ปอนด์
นักลงทุนต่างวิตกกังวลกับปัจจัยลบทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ทั้งกระแสข่าวที่ว่ารัฐบาลสหรัฐมีแผนซื้อหุ้นเพิ่มเติมในซิตี้กรุ๊ป อิงค์ รวมถึงการที่กระทรวงพาณิชย์เผยว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลงถึง 6.2% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้เกือบสองเท่า
นอกจากนั้นปัจจัยดังกล่าวยังฉุดราคาน้ำมันให้ปรับตัวลดลง ทั้งที่เริ่มมีแนวโน้มว่าโอเปคจะสามารถควบคุมราคาน้ำมันในตลาดได้บ้างแล้วหลังจากที่ลดกำลังการผลิตมานานหลายเดือน ปัจจุบันโอเปคยังคงลดกำลังการผลิตน้ำมันที่ระดับ 4.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และหลายฝ่ายเชื่อว่าโอเปคจะประกาศลดกำลังการผลิตอีกอย่างน้อย 1 ล้านบาร์เรลในการประชุมครั้งหน้าในวันที่ 15 มี.ค.นี้