นายหยิน เฉิงจี รองประธานฝ่ายกิจการด้านการเกษตรแห่งสภาผู้แทนราษฎรของจีน คาดการณ์ว่า ราคาสินค้าด้านการเกษตรของจีนอาจปรับตัวลงอีกในปีนี้ ซึ่งจะทำให้รายได้ของเกษตรกรจีนหดตัวลงด้วย โดยปัจจุบันราคาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร รวมถึงฝ้าย ถั่วเหลือง และข้าวโพด ในจีนปรับตัวลดลง หลังจากเกษตรกรเก็บเกี่ยวพืชผลได้มากขึ้น ขณะที่ยอดขายธัญญาหารและผลิตสินค้าเกษตรแปรรูปปรับตัวลดลง
"เราคาดว่าแรงกดดันในภาคการเกษตรจะฉุดราคาสินค้าทางการเกษตรร่วงลงอีกในปีนี้ และเราคาดว่ารายได้ของเกษตรกรจะยังไม่ฟื้นตัวขึ้นในปีนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนต้องเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ เพราะการกระตุ้นรายได้ของเกษตรถือเป็นเป้าหมายสำคัญในการรักษาความเท่าเทียมกันในสังคม และเมื่อสร้างความมั่นใจว่าภาคการเกษตรซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจจีน จะไม่สั่นคลอนและสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งการดำเนินการของรัฐบาลควรจะครอบคลุมถึงการรักษาเสถียรภาพด้านราคาและเพิ่มการจ้างงาน" นายเฉิงจีกล่าวยอดส่งออกของจีนในเดือนก.พ.ร่วงลง 25.7% ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าเดือนก.พ.ของจีนร่วงลงแตะระดับ 4.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มแรงกดดันให้รัฐบาลจีนต้องเร่งใช้มาตรการกระตุ้นอัตราการอุปโภคบริโภคภายในประเทศเพื่อพยุงเศรษฐกิจให้รอดพ้นจากภาวะถดถอย ขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 24.1%
เฉิงจีเปิดเผยว่า ในระยะเวลา 5 ปีจนถึงปีพ.ศ.2551 รายได้ของเกษตรกรจีนเพิ่มขึ้น 2,000 หยวน (292 ดอลลาร์)/ปี ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 5 ปี ทั้งนี้ เพื่อเป็นการปกป้องรายได้ของเกษตรกร รัฐบาลจีนจึงประกาศเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายด้านการเกษตร รวมถึงการให้เงินอุดหนุนสินค้าเกษตร, การลงทุนด้านชลประทานและสาธารณูปโภคในพื้นที่ห่างไกล สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน