การดีดตัวขึ้นของราคายางกว่า 42% ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา อาจใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว หลังวิกฤตเศรษฐกิจโลกกดดันให้อุปสงค์ยางรถยนต์ลดลงหนักสุดในรอบ 30 ปี
สมาคมศึกษายางนานาชาติในสิงคโปร์ เปิดเผยว่า บริษัทผลิตยางรถยนต์ซึ่งเป็นผู้บริโภคยางมากที่สุด อาจมียอดขายร่วงลง 6.8% ในปีนี้ หลังวิกฤตเศรษฐกิจโลกส่งผลให้ความต้องการรถยนต์ลดน้อยลง ในขณะที่อุปทานยางจากประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
เฟลิกซ์ โหยว ผู้จัดการฝ่ายซื้อขายจากบริษัทค้ายางรายใหญ่สุดของญี่ปุ่น มารุเบนิ คอร์ป สาขาสิงคโปร์ กล่าวว่า ราคายางอาจลดลงสูงสุด 35% ในขณะที่บริษัท บริดจ์สโตน คอร์ป ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่สุดของโลก กล่าวว่าราคายางและวัตถุดิบอื่นๆ ที่ลดลงอาจช่วยให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 9.9 หมื่นล้านเยน (1 พันล้านดอลลาร์) ในปีนี้
"ผมคิดว่าราคายางน่าจะลดลงสู่ระดับ 1,000 - 1,200 ดอลลาร์ต่อเมตริกตันภายในสิ้นเดือนก.ย.หากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว" โหยวกล่าว "และจนถึงตอนนี้เศรษฐกิจของประเทศใหญ่ๆ ยังไม่มีการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญเลย"ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์กล่าวว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์โลกที่ปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้ยังไม่สามารถชี้วัดอะไรได้ เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานว่าอุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์ได้ดีดตัวสูงขึ้นจริง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน