ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังมีรายงานว่าสต็อกน้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลง และหลังจากที่ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น
โดยสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (เอพีไอ) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐลดลงมากเกินคาดถึง 6.13 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะเดียวกันตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปก็ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่หลายบริษัทรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด จนส่งผลให้ความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับตัวสูงขึ้น ด้านตลาดหุ้นเอเชียก็บวกขึ้นในวันนี้ โดยการนำของหุ้นกลุ่มยานยนต์และเหมืองแร่
"ข้อมูลจากเอพีไอถือเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายมาก" โจนาธาน คอร์นาเฟล ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียจากบริษัท ฮัดสัน แคปิตอล เอเนอร์จี ในสิงคโปร์ กล่าว
สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.ทะยาน 1.31 ดอลลาร์ หรือ 1.9% แตะ 70.50 ดอลลาร์/บาร์เรลในตลาดนิวยอร์ก และซื้อขายที่ระดับ 69.95 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 10.19 น.ตามเวลาสิงคโปร์ หลังจากที่วานนี้ราคาน้ำมันพุ่ง 2.44 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 69.19 ดอลลาร์/บาร์เรล
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี MSCI Asia Pacific บวก 0.3% แตะ 110.98 จุด ณ เวลา 10.49 น.ตามเวลาโตเกียว ส่วนเงินดอลลาร์ซื้อขายที่ระดับ 1.4132 ดอลลาร์/ยูโร ณ เวลา 6.02 น.ตามเวลาโตเกียว หลังจากที่ขยับลง 0.4% เมื่อวานนี้
ด้านดัชนี Standard & Poor’s 500 ปรับตัวสูงขึ้นแตะ 989.67 จุดเมื่อวานนี้ ส่วนดัชนีดาวโจนส์บวก 0.9% แตะ 9,217.94 จุด
"ตลาดหุ้นที่ดีดตัวขึ้นเป็นผลดีต่อน้ำมัน" โทบี ฮัสซัล นักวิเคราะห์จากบริษัท คอมโมดิตี้ วอร์แรนท์ ออสเตรเลีย ในซิดนีย์ กล่าว "นอกจากนั้นข้อมูลจากเอพีไอยังช่วยหนุนราคาน้ำมันได้มาก"