สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ ร่วงลงอีกในช่วงเที่ยงวันนี้ หลังจาก API รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาด นอกจากนี้ ข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนแอในสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาน้ำมันดิบลงด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนธ.ค.ร่วงลง 47 เซนต์ แตะที่ 78.65 ดอลลาร์/บาร์เรล ในช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาสิงคโปร์ จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ที่ 79.12 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเดือนพ.ย.ครบกำหนดส่งมอบแล้วและปิดที่ระดับ 79.09 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงเที่ยงวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอที่ฉุดดีมานด์พลังงานร่วงลง หลังจากการปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้น 3.85 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ นอกจากนี้ API รายงานว่า สต็อกน้ำมันเบนซินตามการสำรวจของ API ลดลง 558,000 บาร์เรล แตะที่ 209.8 ล้านบาร์เล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงดีเซลและน้ำมันฮีทติ้งออยล์ ลดลง 998,000 บาร์เรล แตะที่ 167 ล้านบาร์เรล
สต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกินคาดจากการสำรวจของ API ทำให้นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์อย่างเป็นทางการของกระทรวงพลังงานสหรัฐในคืนนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.0 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.2% แตะที่ 81.1%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังกับรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด 0.5% แตะที่ 590,000 ยูนิตในเดือนก.ย. และตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างลดลง 1.2% แตะที่ 573,000 ยูนิตในเดือนก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านจะอยู่ที่ 610,000 ยูนิต และตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างจะอยู่ที่ 610,000 ยูนิตในเดือนก.ย.