สภาทองคำโลก (World Gold Council : WGC) เปิดเผยในรายงานวันนี้ว่า ดีมานด์ทองคำทั่วโลกในไตรมาส 3 ปีนี้พุ่งขึ้น 10% จากไตรมาส 2 แตะระดับ 800.3 เมตริกตัน เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่เศรษฐกิจโลกผันผวนและเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ โดยเฉพาะดีมานด์ทองคำในจีนที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 120.2 ตัน ขณะที่ยอดซื้อเครื่องประดับอัญมณีพุ่งขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ WGC เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ดีมานด์ทองคำสำหรับทำเครื่องประดับอัญมณีพุ่งขึ้น 17% จากไตรมาสสอง แตะที่ 473.5 ตัน ส่วนดีมานด์ทองคำสำหรับอุตสาหกรรมอิเลคทรอนิคส์เพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาสสอง แตะที่ 68.9 ตน แต่ลดลง 9.8% จากไตรมาส 3 ปี 2551
ส่วนดีมานด์ทองคำในอินเดียซึ่งเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่สุดของโลก พุ่งขึ้น 26% แตะที่ 137.6 ตันในไตรมาส 3 ขณะที่ดีมานด์ทองคำเพื่อนำไปผลิตเป็นอัญมณีเพิ่มขึ้น 27% จากไตรมาส 2 แตะที่ 111.6 ตัน ทั้งนี้ จีนเป็นตลาดใหญ่แห่งเดียวที่ดีมานด์ทองคำเพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยเพิ่มขึ้น 12%
WGC ระบุว่า ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ เนื่องจากธนาคารกลางและนักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง รวมถึงความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจและภาวะเงินเฟ้อ โดยธนาคารกลางอินเดียเข้าซื้อทองคำจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จำนวน 200 ตัน มูลค่า 6.7 พันล้านดอลลาร์ในช่วงต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ธนาคารกลางมอริเชียสได้ซื้อทองคำ 2 ตันจากไอเอ็มเอฟ มูลค่าประมาณ 71.7 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ธนาคารกลางศรีลังกายังวางแผนเข้าซื้อทองคำด้วย ซึ่งทำให้ WGC เชื่อว่าจะมีธนาคารกลางแห่งอื่นๆเริ่มหันมากระจายความเสี่ยงด้วยการนำเม็ดเงินในทุนสำรองออกมาซื้อทองคำ
โรซานนา วอซเนียค ผู้จัดการฝ่ายวิจัยของ WGC กล่าวว่า "นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไรและเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่เศรษฐกิจยังเปราะบาง โดยเฉพาะเศรษฐกิจในตะวันตกที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนทุ่มซื้อทองคำ รวมถึงภาวะผันผวนในระบบการเงิน นอกจากนี้ เราคาดว่าจะมีธนาคารกลางอีกหลายแห่งเข้าซื้อทองคำเพื่อนำเงินสกุลดอลลาร์ในระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศออกมากระจายความเสี่ยง สถานการณ์เหล่านี้ทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกมีแนวโน้มพุ่งขึ้นอีก"
บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,141.90 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 70.00 เซนต์เมื่อคืนนี้ หลังจากทะยานขึ้นไปแตระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 1,146.50 ดอลลาร์ โดยสัญญาทองคำดีดตัวขึ้นสวนทางกับสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆที่ดิ่งลงถ้วนหน้า รวมถึงสัญญาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างหนักเพราะถูกกดันจากการฟื้นตัวขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ