บริษัท อาร์เซลอร์มิตตาล ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดของโลก สามารถกลับมาทำกำไรได้อีกครั้งในไตรมาสแรก จากที่ขาดทุนในปีที่แล้ว หลังบริษัทเพิ่มกำลังการผลิตเหล็กเพื่อรองรับดีมานด์ที่กำลังฟื้นตัว
โดยรายได้สุทธิของบริษัทอยู่ที่ 679 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสแรกของปีนี้ หลังจากที่ขาดทุนถึง 1.06 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ขณะที่รายได้ก่อนหักกำไร ภาษี และการด้อยค่าของสินทรัพย์ อยู่ที่ระดับ 1.89 พันล้านดอลลาร์
ลักษมี มิตตาล ซีอีโอของอาร์เซลอร์มิตตาล กล่าวว่า เศรษฐกิจปีนี้ฟื้นตัวตามคาด ขณะที่ดีมานด์ก็ขยายตัวขึ้นในทุกตลาด ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์เชิงบวกที่ชัดเจนขึ้นในไตรมาส 2 และปีนี้จะเป็นปีที่แข็งแกร่งสำหรับอาร์เซลอร์มิตตาลอย่างแน่นอน
ผู้ผลิตเหล็กทั่วโลกต่างเพิ่มกำลังการผลิตและขึ้นราคาเหล็กในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์และบริษัทก่อสร้างก็กำลังเพิ่มสต็อกวัตถุดิบ และราคาวัตถุดิบกำลังพุ่งสูง ขณะเดียวกันผู้ผลิตเหล็กกำลังเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น เนื่องดีมานด์จำนวนมากเป็นประวัติการณ์จากจีนหนุนให้ราคาสูงขึ้น และหลังจากที่ผู้ผลิตแร่เหล็กซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตเหล็ก ยกเลิกสัญญาซื้อขายแร่เหล็กที่ใช้อยู่ในปัจจุบันซึ่งมีการตรึงราคาแร่เหล็กเป็นรายปี โดยจะใช้สัญญาฉบับใหม่ที่มีระยะเวลาสั้นกว่าแทน
ทั้งนี้ ราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ใช้ในการผลิตรถยนต์แลการก่อสร้าง ทะยานถึง 41% ในไตรมาสแรก ซึ่งถือว่าขยายตัวมากสุดในรอบ 6 ปี