ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันอังคาร (6 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้ออกมาส่งสัญญาณที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับช่วงเวลาในการทำข้อตกลงการค้ากับบรรดาประเทศคู่ค้า ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ (7 พ.ค.) ตามเวลาสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,829.00 จุด ลดลง 389.83 จุด หรือ -0.95%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,606.91 จุด ลดลง 43.47 จุด หรือ -0.77% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,689.66 จุด ลดลง 154.58 จุด หรือ -0.87%
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่าเขาและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลจะทบทวนข้อตกลงการค้าที่อาจเกิดขึ้นในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้า เพื่อตัดสินใจว่าจะยอมรับข้อตกลงใดบ้าง แต่คำกล่าวของปธน.ทรัมป์ขัดแย้งกับที่สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้แถลงก่อนหน้านี้ว่า รัฐบาลอาจประกาศข้อตกลงการค้าบางส่วนได้เร็วที่สุดในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่าเขามีแผนที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ยาในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า ส่วนเรื่องการเจรจากับจีนนั้น ล่าสุดปธน.ทรัมป์ยอมรับว่าเขายังไม่ได้พบปะกับเจ้าหน้าที่ของจีนเพื่อหารือเกี่ยวกับการทำข้อตกลงทางการค้า
หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ร่วงลง 2.76% ตามด้วยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวลง 0.85% ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 1.23% หลังจากราคาน้ำมัน WTI ดีดตัวขึ้นกว่า 3%
หุ้นบริษัทผลิตวัคซีนร่วงลง นำโดยหุ้นโมเดอร์นา (Moderna) ดิ่งลง 12.25% และหุ้นเวอร์เท็กซ์ ฟาร์มาซูติคัลส์ (Vertex Pharmaceuticals) ร่วงลง 10% หลังจากมีรายงานว่าสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ได้แต่งตั้งวิเนย์ พราซาด ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้องอก (oncologist) ที่เคยใช้คำวิพากษ์วิจารณ์ที่รุนแรงต่อการบังคับใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และหน้ากากอนามัยนั้น ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ประเมินและวิจัยชีววัตถุ (Center for Biologics Evaluation and Research) ของ FDA
หุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูงร่วงลงเนื่องจากแรงเทขาย โดยหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) ดิ่งลง 2% หุ้นเทสลา (Tesla) ร่วงลง 1.75% ส่วนไมโครซอฟท์ (Microsoft) หุ้นอะเมซอน (Amazon) หุ้นอัลฟาเบท (Alphabet) หุ้บบรอดคอมม์ (Broadcom) หุ้นแอปเปิ้ล (Apple) และหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ต่างก็ปิดตลาดปรับตัวลง
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าพุ่งขึ้น 14% สู่ระดับ 1.405 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.376 แสนล้านดอลลาร์ จากระดับ 1.232 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ.
ทั้งนี้ การนำเข้าพุ่งขึ้น 4.4% สู่ระดับ 4.190 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% สู่ระดับ 2.785 แสนล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันนี้ตามเวลาสหรัฐฯ โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมครั้งนี้ แม้ว่าปธน.ทรัมป์พยายามกดดันให้เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็ตาม