ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 1,000 จุดในวันนี้ ขานรับการบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ณ เวลา 19.18 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 1,002 จุด หรือ 2.42% สู่ระดับ 42,325 จุด
นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนายเจมีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ได้พบปะกับนายเหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ที่สวิตเซอร์แลนด์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้า โดยเห็นพ้องให้มีการปรับลดอัตราภาษีศุลกากรฝ่ายละ 115% เป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้อัตราภาษีของสหรัฐที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากจีน ลดลงสู่ระดับ 30% จากเดิมที่ระดับ 145% ขณะที่อัตราภาษีของจีนที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากสหรัฐ ลดลงสู่ระดับ 10% จากเดิมที่ระดับ 125%
อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นของ Pfizer, Merck, Johnson & Johnson, Teva Pharmaceutical, AbbVie และ Gilead Sciences ซึ่งเป็นบริษัทยาของสหรัฐ ต่างดิ่งลงในวันนี้ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เตรียมลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อทำการลดราคายาครั้งใหญ่ในสหรัฐ
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์จะลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารดังกล่าวที่ทำเนียบขาวในวันนี้ เวลา 09.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับคืนนี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย
นอกจากนี้ ในการโพสต์ข้อความใน Truth Social วันนี้ ปธน.ทรัมป์ระบุว่า เขาจะลดราคายาลง 59% หลังจากที่เมื่อวานนี้ ปธน.ทรัมป์เปิดเผยว่า เขาจะใช้นโยบาย Most Favored Nation เพื่อลดราคายาในสหรัฐลง 30-80% โดยมีผลในทันที เพื่อให้ชาวอเมริกันจ่ายเงินซื้อยาในราคาเท่ากับประเทศที่มีราคายาต่ำสุดในโลก
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์มีแผนที่จะใช้นโยบาย Most Favored Nation ในการดำรงตำแหน่งสมัยแรกในปี 2563 แต่ได้ถูกศาลสหรัฐสั่งระงับไว้ และต่อมาถูกยกเลิกโดยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน