ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนในวันอังคาร (20 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับประเด็นทางการค้า
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,781.12 จุด เพิ่มขึ้น 81.81 จุด หรือ +0.94%
หุ้นดิโพลมา (Diploma) พุ่งขึ้น 15.1% ทำสถิติสูงสุดใหม่ หลังบริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการด้านเทคนิคปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้จากการเติบโตตลอดทั้งปี, หุ้นโวดาโฟน (Vodafone) พุ่งขึ้น 7.3% หลังบริษัทโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแห่งนี้คาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตในเยอรมนีซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของบริษัท, หุ้นสมิธส์ กรุ๊ป (Smiths Group) พุ่งขึ้น 4.4% หลังบริษัทวิศวกรรมรายนี้ระบุว่า รายได้ตลอดทั้งปีจะอยู่ในระดับบนสุดของช่วงที่คาดการณ์ไว้ และหุ้นบาร์เคลย์ส (Barclays) ปรับขึ้น 1.2% หลังธนาคารแต่งตั้ง มาร์ก วอร์ม อดีตผู้บริหารจากยูบีเอส (UBS) เป็นหัวหน้าฝ่ายตลาดทุนร่วมระดับโลก
เมื่อวันจันทร์ อังกฤษได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับสหภาพยุโรป ซึ่งครอบคลุมหลายด้าน เช่น ความมั่นคงและกลาโหม การผ่อนคลายข้อจำกัดต่อผู้ส่งออกอาหารและนักท่องเที่ยวจากอังกฤษ รวมถึงข้อตกลงใหม่เกี่ยวกับการประมงซึ่งเป็นประเด็นที่ถกเถียงกัน
ฮิว พิลล์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) กล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางนั้นเร็วเกินไปเมื่อเทียบกับแรงกดดันด้านค่าจ้างที่ยังคงสูง ซึ่งอาจกระตุ้นเงินเฟ้อ
บรรดานักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของอังกฤษซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพุธนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเฝ้ารอความคืบหน้าในการเจรจาทางการค้าจากการประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (G7) ที่จัดขึ้นที่แคนาดาในวันอังคาร โดยผู้เข้าร่วมประชุมคาดว่าจะพยายามสร้างความเป็นเอกภาพในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาษี