ดาวโจนส์พลิกร่วงแดนลบ ซื้อขายผันผวน หลังดีดตัวช่วงแรก

ดัชนีดาวโจนส์พลิกร่วงลงสู่แดนลบ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังดีดตัวขึ้นในช่วงแรก

ณ เวลา 21.28 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 42,303.89 จุด ลบ 39.76 จุด หรือ 0.09%

ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นในช่วงแรกต่อเนื่องจากที่พุ่งขึ้นกว่า 700 จุดวานนี้ โดยได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ประกาศเลื่อนการเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตรา 50% จากสหภาพยุโรป (EU) ออกไปเป็นวันที่ 9 ก.ค. รวมทั้งได้ปัจจัยบวกจากการดีดตัวขึ้นของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ

ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้น 12.3 จุด สู่ระดับ 98.0 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 85.7 ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 86.0

ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐและจีนสามารถบรรลุข้อตกลงชั่วคราวในการปรับลดอัตราภาษีศุลกากร ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างประเทศทั้งสอง ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลก

นักลงทุนจับตาผลประกอบการของ Nvidia ซึ่งจะมีการเปิดเผยหลังปิดตลาดวันนี้ รวมทั้งถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 6-7 พ.ค. ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ

ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ โดยดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)