ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนในวันนี้ (29 พ.ค.) ขณะที่เงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจลดลง หลังจากศาลสหรัฐฯ มีคำสั่งระงับมาตรการกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 38,432.98 จุด เพิ่มขึ้น 710.58 จุด หรือ +1.88% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นนำตลาดได้แก่ กลุ่มโลหะที่ไม่มีส่วนผสมของเหล็ก, กลุ่มอุปกรณ์ขนส่ง และกลุ่มประกันภัย
ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ในนิวยอร์กมีคำสั่งในวันพุธ (28 พ.ค.) ให้ระงับใช้มาตรการภาษีศุลกากรของปธน.ทรัมป์ โดยศาลตัดสินว่า ปธน.ทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขตด้วยการกำหนดภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศที่ขายสินค้าให้กับสหรัฐฯ มากกว่าที่ซื้อจากสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ศาลการค้าระหว่างประเทศซึ่งตั้งอยู่ในแมนฮัตตันของนิวยอร์กระบุว่า รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ให้อำนาจเฉพาะแก่รัฐสภาในการกำหนดกฎเกณฑ์ด้านการค้ากับประเทศอื่น ๆ ซึ่งไม่สามารถถูกแทนที่ได้ด้วยอำนาจฉุกเฉินของประธานาธิบดีในการปกป้องเศรษฐกิจของประเทศ
มาซาฮิโระ ยามากูจิ หัวหน้าฝ่ายวิจัยการลงทุนของ SMBC Trust Bank ให้ความเห็นว่า "ในขณะที่การเจรจาเรื่องภาษียังดำเนินอยู่ มาตรการภาษีส่วนใหญ่กลับถูกสั่งระงับอย่างไม่คาดคิด ทำให้นักลงทุนมองโลกในแง่ดี"
นอกจากนี้ นิกเกอิยังได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ หลังบริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง อินวิเดีย (Nvidia) รายงานผลประกอบการในช่วงเดือนก.พ.-เม.ย.ที่แข็งแกร่งเกินคาด
ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มส่งออก เช่น กลุ่มยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ก็ได้รับอานิสงส์จากเงินเยนที่อ่อนค่าลง ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าผลกำไรจากต่างประเทศเมื่อแปลงกลับเป็นเงินเยน