ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงในวันนี้ (30 พ.ค.) ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น หลังจากศาลอุทธรณ์กลางของสหรัฐฯ อนุญาตให้รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เดินหน้ามาตรการเก็บภาษีแบบครอบคลุมได้ต่อไป แม้ว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ระงับมาตรการดังกล่าวก่อนหน้านี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 37,965.10 จุด ลดลง 467.88 จุด หรือ -1.22%
หุ้นที่ปรับตัวลงนำโดยกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า, กลุ่มเครื่องมือชั่งตวงวัด และกลุ่มบริการ
ในช่วงหนึ่งของการซื้อขาย ดัชนีนิกเกอิปรับตัวลงไปกว่า 600 จุด โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ขนาดใหญ่ที่ถูกเทขายทำกำไรหลังพุ่งขึ้นแรงวันก่อน ส่วนหุ้นส่งออก เช่น ยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ก็เจอแรงกดดันจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตลาดเริ่มฟื้นตัวในช่วงบ่าย หลังนักลงทุนหันไปเก็บหุ้นกลุ่มที่อิงกับอุปสงค์ในประเทศ เช่น กลุ่มยาและเกษตรกรรม ซึ่งโบรกเกอร์มองว่าได้รับผลกระทบจากเงินเยนแข็งค่าน้อยกว่า
มากิ ซาวาดะ นักกลยุทธ์ในแผนกเนื้อหาการลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์โนมูระกล่าวว่า เมื่อมองจากการเจรจาระหว่างสองรัฐบาล โอกาสที่สหรัฐฯ จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าญี่ปุ่นอีกนั้นมีน้อย ทำให้เริ่มประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศได้ชัดเจนขึ้นในระดับหนึ่งแล้ว