ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันศุกร์ (30 พ.ค.) แม้ลดช่วงบวกลง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กล่าวหาว่า จีนละเมิดข้อตกลงด้านภาษี ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,772.38 จุด เพิ่มขึ้น 55.93 จุด หรือ +0.64%
ทรัมป์โพสต์บนแพลตฟอร์มทรูธ โซเชียล (Truth Social) ว่า จีนได้ละเมิดข้อตกลงกับสหรัฐฯ อย่างสิ้นเชิง
แม้ยังมีความกังวลต่อความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีของทรัมป์ แต่ดัชนี FTSE 100 ยังคงปิดเดือนพ.ค.ด้วยผลตอบแทนดีที่สุดในรอบ 4 เดือน
นักลงทุนในสหราชอาณาจักรยังคงมีมุมมองเชิงบวกจากความตึงเครียดทางการค้าที่ลดลงกับสหรัฐฯ หลังจากสองประเทศได้ประกาศข้อตกลงการค้าแบบทวิภาคีฉบับจำกัดเมื่อต้นเดือนนี้
ข้อมูลจากสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่าดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในเดือนเม.ย. 2568 เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.1% เมื่อเทียบรายปี ลดลงจาก 2.3% ในเดือนมี.ค.
อลัน เทย์เลอร์ สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปฏิเสธความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และเรียกร้องให้ลดดอกเบี้ยลงอีก โดยเทย์เลอร์เป็นหนึ่งในสองสมาชิกที่เคยโหวตให้ลดดอกเบี้ยลง 0.50% ในเดือนพ.ค. อย่างไรก็ตาม BoE ได้ตัดสินใจลดดอกเบี้ยเพียง 0.25%
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่า การคาดการณ์เงินเฟ้อของประชาชนอังกฤษในช่วง 1 ปีข้างหน้าลดลง เหลือ 4% จาก 4.2%
หุ้นบริษัทเอ็มแอนด์จี (M&G) ซึ่งดำเนินธุรกิจประกันและจัดการสินทรัพย์ พุ่งขึ้น 5.5% หลังบริษัทไดอิจิ ไลฟ์ โฮลดิงส์ (Dai-ichi Life Holdings) ของญี่ปุ่นประกาศแผนเข้าซื้อหุ้น 15%
ในภาพรวมทั่วโลก ดัชนีหุ้นทั่วโลกปิดเดือนพ.ค.ดีที่สุดนับตั้งแต่ปลายปี 2566 และดอลลาร์สหรัฐก็ปรับตัวขึ้นรายเดือนครั้งแรกของปีนี้
ตลาดการเงินในสัปดาห์นี้มีความผันผวนสูง ขณะที่นักลงทุนพยายามรับมือกับข่าวสารที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากศาลของสหรัฐฯ มีคำสั่งระงับภาษีของทรัมป์ในช่วงต้นสัปดาห์ ก่อนที่ศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งให้นำภาษีบางส่วนกลับมาใช้อีกครั้งเป็นการชั่วคราว