ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงในวันนี้ (2 มิ.ย.) จากแรงขาย ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเพิ่มภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมเป็น 2 เท่า
ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 37,470.67 จุด ลดลง 494.43 จุด หรือ -1.30%
หุ้นที่ลดลงมากที่สุดได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ยาง, กลุ่มเครื่องมือชั่งตวงวัด และกลุ่มอุปกรณ์ขนส่ง
ตลาดหุ้นร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัว หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเมื่อวันศุกร์ว่าจะเพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมเป็น 50% จากเดิมที่เคยกำหนดไว้ 25% เมื่อต้นปีนี้
มาซาฮิโระ ยามากุจิ หัวหน้าฝ่ายวิจัยการลงทุนของธนาคารเอสเอ็มบีซี ทรัสต์ แบงก์ (SMBC Trust Bank) กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายไปมาอย่างรวดเร็วของทรัมป์ทำให้บริษัทต่าง ๆ ตัดสินใจลงทุนได้ยากในระยะยาว และอาจทำให้พวกเขาชะลอการใช้จ่ายเพื่อการลงทุน
โบรกเกอร์ระบุเพิ่มเติมว่า นอกจากการขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมแล้ว ความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่อาจปะทุขึ้นอีกครั้งก็ยิ่งกดดันตลาด
ยามากุจิกล่าวอีกว่า บรรยากาศการลงทุนที่เคยเป็นบวกในเดือนพ.ค. มีแนวโน้มจะเปลี่ยนไปในเดือนนี้ เพราะความไม่แน่นอนที่ยืดเยื้อจะกดดันเศรษฐกิจและส่งผลลบต่อสินทรัพย์เสี่ยงมากยิ่งขึ้น